กองปราบรวบ ปธ.อบต.ตะโละกาโปร์ พร้อมพวก จ้างวานฆ่า ปธ.อบต.คนเก่า

รายงานผลการปฏิบัติจับกุมเครือข่ายกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ได้กำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสำคัญที่ยังหลบหนีการจับกุม ซึ่งได้มอบนโยบายให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจริงจัง กองบังคับการปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.จิรภพ  ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม ได้กำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาดำเนินการตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม พร้อมเร่งรัดให้สืบสวนติดตามจับกุมคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนโดยยึดหลักกฎหมาย เพื่อสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมตามที่คาดหวังไว้ว่าเป็น “ที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน”

จากเหตุการณ์ที่คนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายไสว (สงวนนามสกุล) อายุ 77 ปี เสียชีวิต  เมื่อวันที่  4 เม.ย. 63 เวลาประมาณ 19.56 น.  ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 221 ม.5 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี  ( https://mgronline.com/south/detail/9630000034984 )

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.วริศร  มัจฉา    สว.กก.6 บก.ป. ได้รับคำร้องเรียนจากญาติผู้เสียชีวิตเพื่อขอความเป็นธรรม มายังกองบังคับการปราบปรามให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากได้เกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุยิงครอบครัวและญาติของตนมาแล้ว  2 ครั้ง แต่ไม่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ดังนี้ 

ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๒ เวลาประมาณ ๒๓.๓๐ น. มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิง นายเจ๊ะนา (สงวนนามสกุล) อายุ ๕๒ ปี ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณบ้านเลขที่ ๙๔ หมู่ที่ ๕ ตำบลตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี

ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒  เวลาประมาณ ๒๓.๐๐ น. คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายอามะ (สงวนนามสกุล) อายุ ๕๗ ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของนายไสวฯ ผู้เสียชีวิตในคดีนี้ และมีตำแหน่งทางการเมืองเป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ในขณะนั้น เสียชีวิต

จากนั้น พ.ต.อ.วิระชาญ  ขุนไชยแก้ว ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามลงพื้นที่เพื่อทำการสืบสวน ร่วมกับชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี, เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรยะหริ่ง จ.ปัตตานี และเจ้าหน้าที่ทหาร สืบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มมือปืนในคดีนี้เป็นกลุ่มของ นายมะซูดิง (สงวนนามสกุล) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น ประธานสภา อบต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี โดยได้รับการแต่งตั้งหลังจากบุตรของผู้ตายเสียชีวิต โดยมี นายมูหะหมัด (สงวนนามสกุล) ทำหน้าที่เป็นมือปืน โดยใช้อาวุธปืนลูกซอง, นายอิสมาแอ (สงวนนามสกุล) ทำหน้าที่คอยคุ้มกันโดยใช้อาวุธปืน M16, นายอับดุลรอยะ (สงวนนามสกุล) ทำหน้าที่จัดหาอาวุธปืนและนำอาวุธปืนไปซุกซ่อน และ นายมะรอฮิม (สงวนนามสกุล) ทำหน้าที่ร่วมวางแผนและคอยสังเกตพฤติกรรมของผู้ตาย ซึ่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 อาทิตย์ กลุ่มคนร้ายมีการประชุมวางแผนที่จะลอบยิง นายไสวฯ และมีการจัดเตรียมอาวุธปืนที่จะใช้สำหรับก่อเหตุในครั้งนี้ โดยมีประเด็นความขัดแย้งเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่นระหว่างกลุ่มผู้ตายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุในคดีนี้  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง และพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควร และซ่องโจร”     

 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 รายและสามารถตรวจยึดอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ซึ่งใส่ไว้ในกระสอบปุ๋ยและนำไปฝังดินไว้ที่สวนปาล์มภายในหมู่บ้าน รวมทั้งได้ตรวจยึดอาวุธปืนอื่นๆ อีกจำนวน 7 กระบอกและเครื่องกระสุนปืนของกลางอีกจำนวนหนึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น นายมูหะหมัดฯ, นายอิสมาแอฯ และนายอับดุลรอยะฯ ให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายมะซูดิงฯ และ นายมะรอฮิมฯ ให้การปฏิเสธ

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนำไปชี้จุดที่ร่วมกันประชุมวางแผนก่อนลงมือก่อเหตุ, จุดซุ้มรอใกล้ที่เกิดเหตุ, จุดที่คนร้ายดักซุ้มยิงผู้เสียชีวิตและจุดที่คนร้ายได้นำอาวุธปืนไปซุกซ่อนไว้หลังก่อเหตุ โดยขณะที่กำลังทำแผนอยู่นั้นมีประชาชนในพื้นที่เดินทางมาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งให้กำลังใจและแสดงความชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่สามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีได้