อย. ร่วมกับ บก.ปคบ. ทลายแหล่งจำหน่ายยาสมุนไพรปลอมรายใหญ่

อย. ร่วมกับ บก.ปคบ. แถลงผลปฏิบัติการทลายแหล่งจำหน่ายยาสมุนไพรปลอมรายใหญ่ หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปลอมซึ่งไม่มีสติกเกอร์สัญลักษณ์ มีการลักลอบจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ ปคบ.จึงได้สืบแกะรอยถึงแหล่งโกดังใหญ่ ยึดยา เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกว่า 15,000 ชิ้น มูลค่าของกลางกว่า 2 ล้านบาท พร้อมสืบหาแหล่งผลิตต่อไป

วันนี้ (21 มกราคม 2563) ณ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก. ปคบ.) นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค นำทีมโดย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผู้กำกับการ 4 บก.ปคบ., พ.ต.ท.วีระพงษ์ คล้ายทอง พ.ต.ท.จตุรงค์ ผลเกิด รองผู้กำกับ.4 บก.ปคบ. และ พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ สารวัตร กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับเรื่องร้องเรียนพบผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร คุณสัมฤทธิ์ปลอมแพร่ระบาดแถบดอนเมืองและภาคอีสาน จึงได้ร่วมกับกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก 4.บก.ปคบ.) เก็บข้อมูลหลักฐานและสืบสวนในเชิงลึกจนได้ข้อมูลชัดเจนทราบว่าแหล่งใหญ่อยู่ที่ จ.ชัยภูมิ

ต่อมาเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2563 เจ้าหน้าที่ ตร.กก.4 ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดชัยภูมิเข้าตรวจค้นอาคารเลขที่ 648/49-50 ถ. โนนตาปาน ต. ในเมือง อ. เมือง จ.ชัยภูมิ และขยายผลจึงทราบว่า แหล่งใหญ่ที่มีการลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ที่ จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จึงได้นำหมายค้นศาลจังหวัดนครราชสีมาเข้าตรวจค้นอาคารเลขที่ 620/2-4 ถ. สืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในวันที่ 18 มกราคม 2563 ผลการตรวจค้นพบยา เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผิดกฎหมายหลายรายการ เช่น ผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ปลอม (ยาแคปซูลพลูคาว ยาระบาย ยาบรรเทาอาการปวดเมื่อย ยาบรรเทาริดสีดวงทวารหนัก ยาแคปซูลกำลังช้างสาร และยาแคปซูล
รากสามสิบ) กว่า 6,000 ขวด ซึ่งผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ที่ตรวจพบครั้งนี้ ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้ตรวจสอบและยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ที่ตรวจจับได้เป็นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ปลอม บริษัทฯ จะดำเนินการฟ้องละเมิดเครื่องหมายการค้าต่อไป นอกจากนี้ยังพบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่มีเลขที่จดแจ้งและไม่มีฉลากภาษาไทย ซึ่งเคยตรวจพบสารห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เช่น ครีมหมี (ตลับสีขาว) ครีมหมี (ตลับสีเชียว) ครีมเขียว-ขาว ครีมชุดพม่า ครีมกระปุก และตลับเปล่าสำหรับบรรจุครีม จำนวนกว่า 5,750 ชิ้น และพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เคยประกาศผลวิเคราะห์พบตัวยา และเป็นผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค เช่น LYN เอฟ เอส ที (กล่องดำ) LYN บล็อก เบิร์น (กล่องฟ้า-ขาว) MANG LUK, THUCH MEE, Super Detoxy, เรียวว่าน 500 ผิว จำนวนกว่า 600 ชิ้น รวมยึดผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายทั้งสิ้นกว่า 15,000 ชิ้น มูลค่าของกลางกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งการกระทำดังกล่าว มีความผิดดังนี้

พระราชบัญญัติสมุนไพร พ.ศ. 2562
ขายยาผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท
พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510

  1. ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
  2. ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558

  1. ขายเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้ง ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
  2. ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลาก จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    ทั้งนี้ หากเครื่องสำอางที่ขายปรากฏว่า ผลตรวจวิเคราะห์พบสารห้ามใช้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
  3. จำหน่ายอาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
  4. จำหน่ายอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 – 100,000 บาท
    และหากผลตรวจวิเคราะห์พบสารต้องห้ามอื่น ๆ ที่เป็นอันตราย จะแจ้งเพิ่มอีกข้อหา คือ จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อไปว่า อย. และ บก.ปคบ.จะได้ขยายผล   เข้าตรวจสอบหาโรงงานที่ลักลอบผลิต หากพบผู้รับอนุญาตฯ รายใดมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและใช้มาตรการทางปกครองทันที และขอเตือนร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตจาก อย.ให้ระมัดระวังในการเลือกผลิตภัณฑ์มาวางจำหน่ายและต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎระเบียบที่กำหนด รวมไปถึงต้องมีจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพด้วย ทั้งนี้กรณีที่เป็นร้านขายของทั่วไปจะไม่สามารถขายยาได้หากไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. หรือ สสจ. และร้านจำหน่ายต้องจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องสำอางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง อย. และ บก.ปคบ. จะผนึกกำลังร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคอย่างเข้มแข็งต่อไป

รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า จากการตรวจสอบร้านจำหน่ายในครั้งนี้พบของกลางหลายรายการ ที่เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เคยตรวจพบสารห้ามใช้ หรือเป็นอาหารที่ถูกยกเลิกเลขสารบบอาหารไปแล้ว และเครื่องสำอางซึ่งไม่ได้จดแจ้งให้ถูกต้องและเคยตรวจพบสารต้องห้าม จึงขอเน้นย้ำสำหรับผู้บริโภคขอให้ตรวจสอบเลขอนุญาตผลิตภัณฑ์ก่อนเลือกซื้อมาบริโภค โดยสามารถตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชั่น Oryor Smart Application หรือ อย.ตรวจเลข หรือ Line @ Fdathai เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค และขอเตือนไปยังร้านจำหน่าย ทั่วประเทศให้ระมัดระวังในการเลือกสินค้าเข้ามาจำหน่าย ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายและซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ อีกทั้ง ฝากถึงประชาชนผู้บริโภค ช่วยกันเป็นหูเป็นตา

หากพบร้านจำหน่ายใดลักลอบขายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556 หรือที่ E-mail: 1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด รวมทั้งสามารถร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือเดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเอง ที่ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ได้ทุกวันในเวลาราชการ หรือสายด่วน 1135 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อ อย. จะทำการตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดอย่างเด็ดขาดต่อไป