ตม. จับแก๊งจีนหลอกสาว เล่นเกมส์ออนไลน์!! แชทหลอกหญิงโอนเงิน!!

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.ฯ ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม. ได้แถลงข่าวการจับกุมแก๊งคนจีนหลอกเล่นเกมส์ออนไลน์ ดังนี้

วันนี้ (16 ตุลาคม 2562) เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. นำโดย ว่าที่ พ.ต.อ.วัชรพล กาญจนกันทร ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.ท.พีรภัทร์ ปรมพุฒิ, พ.ต.ท.เทวกฤต มณีรัตน์ รอง ผกก.1 บก.สส.สตม. พ.ต.ต.จักรพล  นาคแสง สว.กก.๑ บก.สส.สตม. พร้อมกำลัง ร่วมกันจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีนจำนวน ๑๔ คน ในลักษณะเป็นแก๊งแชทหลอกลวงหญิงชาวจีนเพื่อให้โอนเงินมาให้ และเกี่ยวกับเกมส์ออนไลน์

พฤติการณ์คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๑ บก.สส.สตม. ได้สืบทราบว่ามีกลุ่มคนจีนประมาณ ๑๐ คนได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร แล้วลักลอบกระทำการหลอกลวงคนจีนด้วยกันผ่านโปรแกรมแชท โดยเช่าบ้านลักษณะหรูหรา เปิดเป็นที่ทำการ กก.๑ บก.สส.สตม. จึงได้นำหมายค้นศาลอาญา ที่ ๓๔๖/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๒ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ ๓๓ ซอย ๒๐ มิถุนา แยก ๕ ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จากการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งถูกดัดแปลงจากบ้านพักอาศัยให้เป็นสำนักงาน พบกลุ่มคนจีนจำนวน ๑๔ คน ภายในบ้าน พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวน ๑๐ กว่ารายการ และโทรศัทพ์มือถือจำนวนหนึ่ง พร้อมติดตั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วสูง

ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีการแชทหลอกลวงหญิงชาวจีนเพื่อให้โอนเงินมาให้ และเกี่ยวกับเกมส์ออนไลน์

จากการสอบถามรับว่าได้รับเงินค่าจ้างจากนายจ้างคนจีนคนละประมาณ 25,000 บาท  ซึ่งทั้งหมดเข้ามาประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว  โดยเมื่อครบกำหนดวีซ่าก็จะเดินทางกลับประเทศจีน และจะมีคนจีนอีกกลุ่มหนึ่งเดินทางเข้ามาทำงานแทนสลับกัน  จนท. จึงได้ยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และมือถือไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต”จากการสอบถามพร้อมยึดเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ไปตรวจสอบเพื่อดำเนินการต่อไป