ตม.ภูเก็ต รวบ ๔ หนุ่มเกาหลีใต้ขาย “คริปโต CURRENCY” พบหัวโจก หนีหมาย INTERPOL

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ      รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติ   ที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ภายใต้การอำนวยการของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.๖ ร่วมแถลงข่าว

ตม.จว.ภูเก็ต จับ ๔ เกาหลีใต้ ลักลอบขาย “คริปโต CURRENCY” พบหัวโจกหนีหมาย INTERPOL

ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน ผกก.2   บก.สส.สตม. ชุดปฏิบัติการ ตม.จว.ภูเก็ต และ กก.2 บก.สส.สตม, กก.สส.บก.ตม.6 ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาดังนี้

1.นายคัง มินกู หรือ MR. KANG สัญชาติ เกาหลีใต้ ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกิน 253 วัน)” ซึ่งเป็นบุคคลมีประวัติกระทำความผิดในประเทศเกาหลีใต้และมีหมายจับของตำรวจสากล (Interpol) ในข้อหาเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก

2.นายจอง ซอลเจ หรือ MR.CHUL สัญชาติ เกาหลีใต้ ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

3.นายมิน จูวอน หรือ MR.MIN สัญชาติ เกาหลีใต้ ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

4.นายคิม ยุนซู หรือ MR.KIM สัญชาติ เกาหลีใต้ ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

 ด้วยเจ้าหน้าที่ ตม.จว.ภูเก็ต ได้รับการร้องขอและประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ให้ติดตามกลุ่มชาวเกาหลีใต้ที่มีพฤติการณ์กระทำผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สส.สตม. กก.สส.บก.ตม.๖ ทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มชาวเกาหลีผู้ต้องหานั้น ร่วมกันเช่าบ้านพักเลขที่ 59/479 ม.4 หมู่บ้านวิลล่ากะทู้ 3 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต สำหรับพักอาศัย ต่อมาจึงได้เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว พบกลุ่มผู้ต้องหากำลังนั่งในลักษณะทำงานอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ตรวจค้นพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก โดยขณะตรวจค้นพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้เปิดหน้าจอทำงานในลักษณะของการเขียนและออกแบบเว็ปไซต์ และยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการทำธุรกรรมรับซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล จากการตรวจสอบเพิ่มเติม จากฐานข้อมูล BIOMETRICS และระบบการตรวจลงตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักรแต่อย่างใด อีกทั้ง MR.KANG ผู้ถูกจับที่ 1 ได้เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกิน 253 วัน) จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและนำกลุ่มผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 อีกทั้งจากการตรวจค้นที่เกิดเหตุพบเอกสารสัญญากู้ยืมเงินซึ่งระบุชื่อคู่สัญญาเป็นบุคคลอื่นในที่เกิดเหตุ จึงเป็นสิ่งอันควรเชื่อได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์ประกอบธุรกิจสินเชื่อและเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในการขยายผล เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป

 สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฯ  และการกระทำความผิดในกฎหมายอื่น  การประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน   ที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน  ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดกฎหมาย การก่อเหตุอันตรายใด ๆ  อันกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันอาจทำให้เกิดความเสียหาย  ต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ  กรุณาแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507  ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร   กรุงเทพ ฯ  10120  หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1178  หรือที่ www.immigration.go.th  จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง