ตร.ทางหลวง จับกุมสาวใช้รถสวมทะเบียน สารภาพซื้อจากกลุ่มเฟซบุ๊กขายรถออนไลน์

ตำรวจทางหลวงจับกุม หญิงใช้รถสวมแผ่นป้ายทะเบียน หลังเจ้าของป้ายทะเบียนจริงแจ้งความไว้กับตำรวจทางหลวงอยุธยา ถูกใบสั่งปรับความเร็วเกินกำหนดหลายแห่ง ทั้งที่ตนไม่ได้ไปสถานที่นั้นๆ

กองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบัญชาการสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก., พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ, พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล

ร่วมจับกุม น.ส.มณีวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี พร้อมของกลาง  รถยนต์เก๋งสองตอน ยี่ห้อ MAZDA รุ่น MAZDA 2 สีขาว ติดป้ายทะเบียน 6กก-8874 กรุงเทพมหานคร เลขตัวรถ MM8DJ2H3A0W467284 จำนวน 1 คัน  แผ่นป้ายทะเบียน หมายเลข 6กก-8874 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี ประจำปี 2564 หมายเลข 6กก-8874 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แผ่น สำเนารายการจดทะเบียน รถยนต์ ยี่ห้อ มาสด้า ทะเบียน 6 กก8874 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แผ่น สถานที่จับกุม กม.39 ถนนสายเอเชีย ขาเข้า (ทล.32) ต.ตานิม อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นางอุษา ฯ ผู้ครอบครองและเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ MAZDA รุ่น MAZDA 2 สีขาว ทะเบียน 6กก-8874 กรุงเทพมหานคร ได้แจ้งมายังสถานีตำรวจทางหลวงอยุธยา ว่า ได้รับใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรในข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดในหลายเช่นพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้ขับรถไปสถานที่ดังกล่าวในวันเวลาเกิดเหตุ จึงได้เข้าแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ไว้เป็นหลักฐาน เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 63

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจทางหลวง (อยุธยา) ได้ดำเนินการประสานงานไปยังนางอุษา ฯ และได้ดำเนินการตรวจสอบ ใบสั่งทั้งหมด พบว่า ยังมีใบสั่งที่ออกในพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก รวมแล้ว จำนวน 7 ใบ ที่เป็นรถยนต์คันที่สวมทะเบียน จึงได้ดำเนินการตรวจสอบ เพื่อเฝ้าระวังรถยนต์ที่กระทำผิดคันดังกล่าว

ต่อมา วันที่ 11 ม.ค. 64 เวลาประมาณ 14.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสถานีตำรวจทางหลวงอยุธยา ว่ามีรถต้องสงสัยขับผ่านกล้องตรวจจับความเร็วของ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ที่บริเวณ กม.45 ถ.สายเอเชีย ขาเข้า (ทล.32) ต.บ้านใหม่ อ.มหาราชจ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งกล้องเป็นระบบ AI เบื้องต้นพบว่ารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ MAZDA รุ่น MAZDA 2 หมายเลขทะเบียน 6กก-8874 กรุงเทพมหานคร เป็นรถยนต์ต้องสงสัยที่มีผู้แจ้งว่ารถของตนถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง โดยรถวิทยุ 1012 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับรถยนต์ติดตามมาถึง บริเวณ กม.39 ถนนสายเอเชีย ขาเข้า (ทล.32) ต.บ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เรียกให้ผู้ขับขี่หยุดรถ พบนางสาวมณีวรรณฯ เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจสอบ พบว่า ไม่มีเอกสารคู่มือรายการจดทะเบียนรถ และผู้ขับขี่ได้แสดงสำเนาคู่มือรายการจดทะเบียรถคันที่ถูกจับกุมให้เจ้าหน้าที่ผู้จับกุมตรวจสอบ แต่ข้อมูลผู้ครอบครองรถไม่ตรงกับข้อมูลกรมขนส่งทางบก และหมายเลขตัวถัง,หมายเลขเครื่องของรถยนต์คันดังกล่าว อีกทั้งแผ่นป้ายการเสียภาษีประจำปี ซึ่งมีลักษณะปลอม ไม่ตรงกับข้อมูลกรมการขนส่งทางบก ซึ่งนางสาวมณีวรรณฯ ได้รับสารภาพว่า ได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากกลุ่มเฟสบุ๊คขายรถออนไลน์ ซึ่งได้ซื้อมาในราคา 289,000 บาท ได้ใช้มาตั้งแต่ เดือน ก.ค. 63 เรื่อยมา จนกระทั่งถูกจับกุม

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของรถที่แท้จริง ที่ถูกสวมทะเบียน นางอุษาฯ ได้แสดงความดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ เนื่องจากเกรงว่า ทะเบียนซึ่งนางอุษา ฯ เป็นผู้ครอบครองจะถูกนำไปก่อเหตุ ทำให้เกิดความเสียหายต่อตน และได้ฝากขอบคุณมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ได้ช่วยจับกุมได้โดยเร็ว