“เสี่ยแพร” ถึงขอนแก่นแล้ว ตำรวจเร่งสอบปากคำพร้อมแจ้ง 3 ข้อหา

เสี่ยแพร” ถึงขอนแก่นแล้ว ตำรวจเร่งสอบปากคำให้เสร็จภายในคืนนี้ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาเตรียมคุมตัวส่งฟ้องศาลฝากขังผลัดแรกพรุ่งนี้ ขณะที่เจ้าตัวหอบยาเบาหวานถุงใหญ่ให้การตำรวจห้ามสื่อมวลชนถ่ายภาพเด็ดขาด


เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 15 ธันวาคม 2563 ที่ ห้อง ศปก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.สุกฤษฏิ์  พุทธิทัยธีรธร สว.(สส.)สภ.เมืองขอนแก่น  นำตัว นายธเนศ เปล่งขำ หรือแพร อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ที่ตามทวงหนี้และทำร้ายร่างกาย น.ส.นันทิชา สีลาดเลา หรือน้องเอ อายุ 19 ปี เหตุเกิดที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียม ในชุมชนหลังสนามกีฬา ในเมืองขอนแก่นเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา

  โดยมีพนักงานสอบสวนที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาทำการสอบสวน ในคดีดังกล่าว จำนวน 3 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ท.จิรัฐเกียรติ ศรวิเศษ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ร.ต.อ.กฤติเดช จันลา รอง สว.(สอบสวน ) และ ร.ต.อ.สุรศักดิ์ กล้าจอหอ รอง สว. (สอบสวน)สภ.เมิองขอนแก่น  รับตัวผู้ต้องหาและร่วมกันทำการสอบสวนผู้ต้องหาทันที ซึ่งในการคุมตัวเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นนั้น นายแพร ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาแจ้งกับสื่อมวลชนว่า ห้ามถ่ายภาพทำข่าวและไม่ขอให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนโดยเด็ดขาด



ในเวลาต่อมา พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง โดยไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสื่อมวลชนเข้าห้อง ศปก. ประมาณ 1 ชม.จึงแล้วเสร็จ

พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า  การสอบสวนเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน  ส่วนการที่ผู้บังคับบัญชาเดินทางมาพบและพูดคุยนั้น เนื่องจากว่าผู้ต้องหา มีอาการป่วยด้วยโรคเบาหวานที่รุนแรง และเรื้อรังและรักษาตัวมานาน เคยตัดนิ้วเท้าออก 2 นิ้วเพื่อรักษาตัวเอง และจากการพูดคุยในเบื้องต้นทราบว่าเคยมีอาชีพเป็นไกด์ พานักท่องเที่ยว เที่ยวไปหลายประเทศ กระทังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ตกงาน อยู่บ้านเฉยๆ และเล่นเฟสบุ๊ค มีการติดต่อพูดคุยกับผู้คนจำนวนมาก รวมถึงน้องเอ คนเจ็บที่เป็นลูกหนี้ด้วย เพราะสนิทกันผ่านโซเชียล จึงมีการขอยืมเงินและผู้ต้องหาก็ให้กู้ไปแสนกว่าบาท แต่ยังไม่ได้คืนทั้งที่มีการทำสัญญาไว้เรียบร้อย จึงได้เดินทางมาทวงหนี้ทั้งหมดกับน้องเอแต่ไม่ได้เงิน จึงมีการพูดคุย แต่ก็ยังไม่ได้ จึงเกิดการบันดาลโทสะ ทำร้ายน้องเอตามที่ปรากฏในคลิป

“ขณะนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนทั้ง 3 คน ในการทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ส่วนอาการป่วยนั้น ผู้ต้องหามีการรับประทานอาหารละกินยาตามแพทย์สั่ง และยังไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆทั้งเอกสารสัญญาเงินกู้หรือหลักฐานอื่นๆ ผู้ต้องหาจะให้ทนายความและญาตินำมามอบให้เพิ่มเติม ซึ่งเมื่อขั้นตอนการสอบสวนเรียบร้อยก็จะนำส่งศาลจังหวัดขอนแก่นตามขั้นตอนต่อไป และในการให้ปากคำของผู้ต้องหานั้น จะให้การอย่างไรต่อพนักงานสอบสวนก็ได้ จะปฏิเสธหรือรับสารภาพก็ไม่ใช่ปัญหา ทุกอย่างไปว่ากันในศาลเท่านั้น”