กองปราบรวบหนุ่มแอบอ้างเป็นผู้การกองปราบ และ สว.กก.2 บก.ป. เรียกรับเงินค่าติดตามคดี

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ  พล.ต.ต.จิรภพ  ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.อรุณ  วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.อ.พิเชษฐ์ คำภีรานนท์ ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง, พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.นฤทธิ์  ผูกจิตร รอง ผกก.2 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดำเนินการสืบสวนจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป., พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.ณัชณวินท์ กฤตปภาคชภัค, ร.ต.อ.ณัฐพล ผลชอบ รอง สว.กก.2 บก.ป., พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฎิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. พ.ต.ต.กิตติพงศ์ อมฤตโอฬาร และ พ.ต.ต.นิมิตร หงษ์เวียงจันทร์ สว.กก.๓ ปอท.  ร่วมกันจับกุมตัว นายจุมพล (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 866/2563 ลง 15 มิ.ย.2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมตัวได้ภายใน ซ.หทัยราษฎร์ 21 แขวง/เขต มีนบุรี กรุงเทพมหานคร

โดยเมื่อช่วงประมาณปลายเดือน พ.ค.2563 ได้มีผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงาน ที่กองบังคับการปราบปราม ของ พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. แจ้งว่ามีผู้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ ในกลุ่ม open chat ของตำรวจ โดยใช้ชื่อไลน์ว่า “พ.ต.ต.กษิดิ์เดช” และ “สว.บอย” ซึ่งไลน์ทั้งสองเป็นผู้ใช้คนเดียวกัน สนทนาในลักษณะแสดงตัวเป็นตำรวจ หากเข้าไปสนทนาส่วนตัวจะใช้ชื่อไลน์ว่า “สว.กก.2 บก.ป.” และพูดคุยลักษณะเป็นตำรวจเพื่อขอข้อมูลการทำงาน ซึ่งมีตำรวจหลายรายเข้าใจผิดว่าเป็นตำรวจกองปราบจริง

อีกทั้งต่อมาวันที่ 10 มิ.ย. 2563 ได้มีผู้เสียหายได้แจ้งข้อมูลเข้ามาทางเพจกองปราบปราม เป็นภาพข้อมูลการสนทนาระหว่างผู้บังคับการปราบปรามกับผู้เสียหายในแอพพลิเคชันไลน์ โดยมีการเรียกรับเงินค่าติดตามคดี โดยผู้เสียหายเชื่อว่าตนน่าจะถูกหลอก ทางเพจกองปราบปรามจึงได้ประสานข้อมูลไปยัง กก.1 บก.ป. เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้ตั้งกลุ่มไลน์ชื่อว่า “ปราบปรามคนโกงออนไลน์” และได้คัดลอกลิงค์ไปโพสต์ในสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อชักชวนให้ผู้เสียหายที่ถูกฉ้อโกง เข้ามาอยู่ในกลุ่ม จากนั้นผู้ต้องหาจะติดต่อกับผู้เสียหายโดยตรง และทำทีแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ใช้ชื่อไลน์ว่า “สว.กก.2 บก.ป หรือ สว.บอย” เพื่อเรียกรับเงินค่าติดตามคดีจากผู้เสียหาย 

 เมื่อทาง พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ ทราบเรื่อง จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ที่ กก.3 บก.ปอท. ซึ่งการกระทำของผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าว มีการนำข้อมูลที่ได้รับมาไปหลอกลวงผู้เสียหาย เพื่อนำไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ซึ่งเป็นการก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน

นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ กก.2 บก.ป. ว่ามี ผู้ใช้ไลน์ว่า “สว.กก.๒ บก.ป.” อ้างชื่อว่า พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ หรือ สว.บอย และ อ้างเป็นตำรวจกองบังคับการปราบปราม โดยรู้จักผ่านกลุ่มไลน์ Open Chat ชื่อ “ปราบปรามคนโกงออนไลน์” สามารถช่วยเหลือจากการที่ตนถูกโกงเงินได้ โดยจากนั้นผู้ดูแลห้องจะให้ไปคุยส่วนตัวกับผู้ใช้ไลน์ชื่อ “สว.กก.2 บก.ป.” แล้วหลอกคุยสร้างความน่าเชื่อถือ โดยมีการแสดงตัวเป็นผู้บังคับการปราบปราม, ตำรวจในกองบังคับการปราบปรามหรือ แสดงเป็นคู่กรณีต่างๆ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นตำรวจจริง จึงได้โอนเงินค่าดำเนินการต่างๆให้ หลังจากนั้น ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย มูลค่าความเสียหายกว่า 63,500 บาท อีกทั้งต่อมา มีผู้เสียหายมาแจ้งความที่ กก.1 บก.ป. ว่าได้ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน ว่าใช้ชื่อไลน์ว่า “สว.กก.2 บก.ป.” อ้างชื่อว่า พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ หรือ สว.บอย ว่าสามารถช่วยเหลือคดีได้ หลอกให้โอนเงิน และไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน มูลค่าความเสียหาย 67,500 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายรายอื่นที่ยังคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจริง อยู่อีกหลายราย และกำลังตกเป็นเหยื่อหรือ สูญเสียเงินไปแล้ว

  กองบังคับการปราบปราม เห็นว่า ผู้ต้องหาอ้างตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อเรียกรับผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมายและสร้างความเสียหายให้กับประชาชนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก แต่กลับมาโดนหลอกซ้ำอีกครั้ง ผู้บังคับการปราบปราม จึงได้สั่งให้ชุดสืบสวนของ กองกำกับการ 2 และ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี เพื่อหยุดพฤติกรรมอ้างตัวว่าเป็นตำรวจกองปราบปราม

จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบสวนของ กก.2 บก.ป., กก.1 บก.ป., กก.3 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนต่างๆ ได้ร่วมกันตรวจสอบจนทราบว่า นายจุมพล (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี เป็นผู้ใช้ไลน์ว่า “พ.ต.ต.กษิดิ์เดช”, “สว.บอย”, “สว.กก.2 บก.ป.” และตรวจสอบพบว่าเคยมีประวัติหลอกลวงการซื้อขายของออนไลน์ แอบขโมยบัตรประชาชนพ่อ และเลขบัญชีธนาคาร มาหลอกให้เหยื่อโอนเงิน แต่ยังไม่มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ต้องหามาพักอาศัยอยู่บริเวณ ซ.หทัยราษฎร์ 21 แขวง/เขต มีนบุรี กรุงเทพมหานคร จึงได้วางแผนนำกำลังเข้าตรวจสอบ

ต่อมาวันที่ 16 มิ.ย. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 , กก.1 บก.ป. , กก.3 บก.ปอท. , ได้นำหมายค้นของศาลมีนบุรี เข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นสามารถจับกุม นายจุมพล (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 866/2563 ลง 15 มิ.ย.2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “โดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” พร้อมของกลางโทรศัพท์, สมุดบัญชี, เอกสารต่างๆ ส่ง พงส.กก.3 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ปลอมไลน์ข้างต้นเพื่อใช้หลอกลวงผู้เสียหายจริง

กองปราบปรามยังให้ข้อแนะนำ, การเตือนภัยอาชญากรรม (ถ้ามี) 

 1. การดำเนินคดีและติดตามจับกุมตัวคนร้ายเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้ว กองปราบปรามไม่มีนโยบายในการเรียกรับเงินค่าติดตามคดี หรือเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆ จากผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งประชาชนสามารถมาแจ้งความกับทางกองปราบปรามได้โดยตรง ที่กองบังคับการปราบปราม ถ.พหลโยธิน หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดต่างๆ ผ่านทาง Facebook : กองปราบปราม ,หรือหากท่านได้แจ้งความกับร้อยเวรของกองปราบปรามคนใด สามารถติดต่อร้อยเวรท่านนั้นได้โดยตรง

2. ในระยะหลังนี้มีการโกงผ่านทางออนไลน์เยอะ หากมีการเรียกรับผลประโยชน์ในลักษณะดังกล่าว ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเตือนภัยได้ทาง Facebook : กองปราบปราม เพื่อสามารถป้องกันได้อย่างทันท่วงที

3. เมื่อรู้ว่าถูกหลอก ให้ท่านรวบรวมหลักฐาน และรีบแจ้งความดำเนินคดี

“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”

“ข้อมูลนี้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ในการป้องกันภัยของประชาชน”