แถลงข่าว จับกุมผู้ต้องหาชิงทองห้างดัง ลพบุรี

วันนี้ (23 ม.ค.63) เวลา 10.30 น. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำทีมคณะทำงานแถลงข่าวคดีที่นายประสิทธิชัย เขาแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี ผู้ต้องหาชิงทองในห้างสรรพสินค้า จังหวัดลพบุรี ก่อนยิงผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 ศพ และบาดเจ็บ 4 ราย

สื่อมวลชนกว่า 400 คน ต่างมาเฝ้ารอการแถลงในเวลา 10:30 น. ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. กล่าวถึงแนวการสืบสวนว่า หลังจากได้ข้อมูลมาประมวล และมีฐานข้อมูลเก่าๆ อยู่ จึงทำให้ระบุตัวเป้าหมายได้มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และได้เฝ้าสังเกตุการณ์จนน่าเชื่อว่าเป็นนายประสิทธิชัย จึงได้ออกหมายจับและเข้าจับกุมตัวเมื่อวานนี้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการโฟนอินผู้ต้องหาให้ทางสื่อมวลชนสอบถาม ซึ่งคาดว่าถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองบังคับการกองปราบปราม เมื่อถามถึงเหตุจูงใจที่ทำให้ก่อเหตุ นายประสิทธิชัย ตอบว่า เกิดจากปัญหาส่วนตัว ปัญหาเกี่ยวกับด้านการเงิน ส่วนเรื่องการยิงผู้อื่น นั้นเป็นการยิงเพื่อเปิดทางหรือยิงให้กลัว มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าประมาณ 2-3 วัน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต ส่วนเหตุที่ยิงซ้ำพนักงานร้านทอง ตอนที่กระโดดขึ้นไปที่ตู้กระจก ได้หันปลายกระบอกปืนที่พนักงานร้านทองและถุงมือเข้าไปพันไกปืน พอพยายามดึงถุงมือออกได้ลั่นไกไปอีก 2 นัด ไม่ได้ตั้งใจยิงหลายนัด

เมื่อถามถึงว่าทำไมต้องยิงเด็ก น้องไทตัล นายประสิทธิชัยตอบว่า ตนไม่ได้ตั้งใจยิงเด็ก แต่ตั้งใจยิงเพื่อเปิดทางเท่านั้น ไม่เห็นเด็ก เพราะตนยิงรปภ. แต่กระสุนพลาดไปโดนเด็ก คาดว่าลูกกระสุนจะแฉลบไปโดนเด็ก ตนไม่ได้ตั้งใจ ส่วนที่ยิงเปิดทางแล้วต้องยิงคนจนเสียชีวิตนั้น ตนได้ยิงไปที่ตู้กระจกทอง 2 นัด แต่ไม่คิดว่ากระสุนจะโดนพนักงานร้านทอง และพอเจอผู้ชายกับผู้หญิงที่มาซื้อทอง พอกระทำไปอารมณ์มันก็หลุดไปแล้ว

ถามถึงเรื่องเก็บเสียง ตนสั่งมาจากเพื่อนรุ่นน้องทางอินเตอร์เน็ต เหตุผลที่ใช้เพราะว่าต้องการลดเสียงปะทะ ไม่ให้คนตื่นตระหนก

และเมื่อนักข่าวถามว่า หลังจากทราบข่าวมีเด็กเสียชีวิต ตนใช้ชีวิตปกติไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ? นายประสิทธิชัยตอบว่า ตนรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดทุกครั้งที่เห็นข่าว แต่พยายามทำตัวตามปกติ ไม่ได้คิดจะหนี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อยากพูดอะไรถึงผู้สูญเสียบ้าง นายประสิทธิชัย กล่าวว่า อยากบอกว่าเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตโดยเฉพาะน้องไทตัลและพนักงานร้านทอง และทุกคนที่ได้กระทำการยิงลงไป อยากบอกว่าเสียใจและขอโทษ

หลังจากเกิดเหตุคิดมอบตัว แต่ไม่ได้ปรึกษาอะไรกับใคร เพราะการกระทำทั้งหมดทำแต่เพียงผู้เดียว ไม่ได้คุยกับใคร แต่คิดว่าหลังวันที่ 24 ม.ค.63 จะมอบตัวกับตำรวจ ซึ่งที่ต้องเป็นวันนี้เนื่องจากมีภารกิจที่โรงเรียน

อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุที่ก่อเหตุไม่ได้อยากตาย ไม่ได้เป็นไปตามข่าวที่อ้างขึ้นมา ปัญหาเกิดจากส่วนตัวและการเงิน

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับพยานหลักฐานได้มีอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ทองรูปพรรณ 32 เส้นที่ได้จากบ้านของพ่อผู้ต้องหา ส่วนที่ขาดอยู่คือลำกล้องกับท่อเก็บเสียง เจ้าหน้าที่กำลังงมหากันอยู่ ส่วนผู้ชี้เบาะแสเป็นความลับในสำนวนที่ทางกองปราบปรามได้รับมา ถึงวันนี้ยังไม่พบว่าพ่อของผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ แต่วันนี้ยังไม่แจ้งข้อหาใครเพิ่มเติม ขณะที่ ผู้ต้องหารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยมีมูลเหตุประสงค์ต่อทรัพย์ส่วนจะเอาไปทำอะไรอยู่ในสำนวน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานายประสิทธิชัย 7 ข้อหา ได้แก่ 1.ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดอย่างอื่น 2.ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การกระทำผิดอื่น หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ 3.พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น 4.ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 5.ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน 6.พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุอันควร และโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว 7.มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้และมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับขั้นตอนการนำตัวฝากขังนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะส่งฝากขังในวันนี้ (23 ม.ค.) เพราะการดำเนินการในขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนและรวบรวมคำให้การประกอบสำนวนคดี