“ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีถูกพาดพิง กองทุน 1MBD ”

จากกรณี เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ได้กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีทุจริต ๑MDB โดยการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ในการปกปิดเอาคนบริสุทธิ์เข้าคุก ตลอดจนให้ที่พักพิงอาชญากรอันเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากการตรวจสอบขอชี้แจง ดังนี้

  • กรณีกล่าวหาว่ามีการกลั่นแกล้งจับกุม นาย ซาเวีย จัสโต (MR.XAVIER JUSTO) สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในผู้บริหารของบริษัท ปิโตรซาอุดิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่เป็นเครือข่ายฟอกเงิน ๑MDB ที่ลาออกและนำข้อมูลมาเปิดเผยต่อสาธารณะ

                  จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘ นายซาเวียฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่   
กองปราบปรามจับกุมดำเนินคดี จากที่มีผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ว่ามีพฤติกรรมข่มขู่รีดเอาทรัพย์ บริษัทน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ นายซาเวียฯ เคยทำงานอยู่ หลังจากการดำเนินคดีนายซาเวียฯ ได้ให้การรับสารภาพ โดยในวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ ศาลจึงได้พิพากษาลงโทษจำคุก ๖ ปี และลดโทษให้เป็น ๓ ปี ระหว่างการถูกคุมขังในเรือนจำ มีการยื่นคำร้องขอโอนตัวนายซาเวียฯ กลับไปรับโทษต่อยังประเทศสวิสเซอร์แลนด์ตามสนธิสัญญา แต่เนื่องจากขณะนั้นยังเหลือโทษที่ต้องจำคุกมากกว่า ๑ ปี ซึ่งตาม พ.ร.บ.การปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ.๒๕๒๗ กำหนดให้การโอนตัวนักโทษได้นั้นจะต้องเหลือโทษที่จำคุกน้อยกว่า ๑ ปี คณะกรรมการพิจารณาโอนตัวนักโทษ ได้พิจารณาเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๙ แล้วมีมติยังไม่ให้โอนตัวนายซาเวียฯ หลังจากที่ นายซาเวียฯ ถูกจำคุกเป็นเวลา ๑ ปี ๖ เดือน ได้รับการปล่อยตัวตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในวโรกาสสำคัญของชาติ ๒ ฉบับ
ซึ่งหากรัฐบาลหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลั่นแกล้ง นายซาเวียฯ น่าจะไม่ได้รับโอกาสดังกล่าว

                  เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๙ ภายหลังจากที่นายซาเวียฯ พ้นโทษ และได้ถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาของศาลไทย จึงถูกจัดเก็บข้อมูลไว้ในระบบสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๒(๖),(๗) ถูกสั่งห้ามเข้าประเทศตลอดชีวิต ซึ่งในระบบจะบันทึกว่าห้ามเข้าประเทศ ๑๐๐ ปี “จากข้อเท็จจริงดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ช่วยปกปิดข้อมูลหรือกลั่นแกล้งนายซาเวียฯ แต่อย่างใด”

/กรณีกล่าวหา

-2-

  • กรณีกล่าวหาว่า ให้ความคุ้มครองช่วยเหลือ นาย โจ โล นาย ตังเคงฉี และ
    นาง จัสมิน ลู ให้สามารถเข้าออกและพักอาศัยในประเทศได้ ทั้งที่สิงคโปร์และมาเลเซีย ได้ขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดง เพื่อให้กลุ่มประเทศสมาชิกจับกุมบุคคลที่มีหมายจับหรือผู้ร้ายข้ามแดนเมื่อได้รับ
    การร้องขอ

จากการตรวจสอบพบว่า ทั้ง ๓ คน มีการเข้าออกช่องทางตามกฎหมายอย่างถูกต้อง และบันทึกการเข้าออกไว้ตลอด สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้มีการช่วยเหลือหรือลบข้อมูลแต่อย่างใด
โดยทั้ง ๓ คน ได้เดินทางเข้าออกประเทศไทยก่อนที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะมีการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศกับฐานข้อมูลของตำรวจสากล ทั้งนี้ภายหลังมีการเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูล ตั้งแต่วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๒ แล้ว สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงทราบว่ามีการออกหมายแดงดังกล่าว ซึ่งบุคคลทั้ง ๓ ก็ไม่ได้มีการเดินทางเข้าประเทศไทยอีก

  • สำหรับการเชื่อมต่อระบบข้อมูลข่าวสารระหว่าง ตำรวจสากล กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องนี้เดิม ครม. ได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๘ เม.ย.๖๐ เห็นชอบในหลักการให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถเข้าถึงระบบข้อมูลข่าวสารกับตำรวจสากลได้ แต่เนื่องจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องไปดำเนินการในรายละเอียด ตั้งแต่ ยกร่างบันทึกข้อตกลง การจัดหางบประมาณ การลงนาม และการเชื่อมต่อข้อมูล ตลอดจนให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสำหรับตรวจสอบหมายของคนต่างด้าว และใช้ได้ ในวันที่ ๒๙ เม.ย.๖๒

            จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏข้างต้น จึงขอเรียนให้ทราบว่า รัฐบาล และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเครือข่ายฟอกเงินของแก๊ง ๑MDB แต่ประการใด



สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ POLICE TV
กล่องรับสัญญาณ PSI – 203 / Gmmz – 140 /
• Application : POLICE TV , AIS PLAY , THAI TUNES
• POLICE TV Website : http://www.policetv.tv
•  https://www.facebook.com/policetv.tv
• LINE@ : @poltv (อย่าลืมเติม@)
• INSTAGRAM : POLICETV

POLICETV #สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #ทีวีตำรวจ #ข่าวตำรวจ #กลุ่มงานระบบวิทยุโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง #กองตำรวจสื่อสาร #สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ