กองปราบรวบหนุ่มใหญ่ ก่อเหตุร่วมกันฆ่า

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ  ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล, พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์, พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.สุริยศักดิ์  จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก. 4 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก. 3 บก.ป. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา

เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดำเนินการสืบสวน/จับกุม พ.ต.ต.ณัฐดนัย  สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ รอง  สว.กก.3  บก.ป., ร.ต.อ.อาธิรัตน์  ทิพย์เจริญ รอง สว.(สอบสวน)กก.3 บก.ป., ด.ต.สุรศักดิ์ บุญเพ็ง, ด.ต.วิทยา สุทธิปัญโญ, ด.ต.ชโยธรณ์ ทองนาค, ด.ต.มนตรี โสภัย, ด.ต.นมสิทธิ์ วาทโยธา, ด.ต.สังเวียน  โอรา, ด.ต.ประกาญ แก้วโพธิ์งาม, ด.ต.หัสดี ชิลนาค, จ.ส.ต.มงคล ชิณภาพ, ส.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทร์ไทย, ส.ต.ท.สุพจน์ ยางขัน, ส.ต.ท.ชูศักดิ์ เฟื่องฟู ผบ.หมู่.กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว  นายนเรศ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.670/2553 ลง 27 ต.ค.53 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ใความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”   จับกุมได้ที่ บริเวณหน้าร้านเครื่องเสียง ปากซอยชากนอก 16 ถ.ชากนอก ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พฤติการณ์ก่อนถูกจับกุม จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ทราบว่า นายนเรศ ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์เป็นนักเลงเจ้าถิ่นในพื้นที่มีนิสัยนักเลง ใจถึง กล้าได้ กล้าเสีย และมักจะพกอาวุธปืนอยู่ตลอดเวลา โดยก่อนที่จะก่อคดี “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” นายนเรศฯ ได้ก่อเหตุมาหลายคดี โดยเมื่อประมาณปี 2550 นายนเรศฯ ได้ขับขี่รถยนต์ไปกับ น.ส.วิภารัตน์ (สงวนนามสกุล) แฟนสาว เมื่อถึงจุดตรวจจุดสกัดของ สภ.แสนสุข จว.ชลบุรี นายนเรศฯ ได้จอดรถทิ้งแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นพบอาวุธปืนอยู่ภายในรถจึงได้ตรวจยึดรถและปืนแล้วดำเนินการขออนุมัติออกหมายจับนายนเรศฯ ต่อศาลจังหวัดชลบุรี ในข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน” และต่อมาเมื่อประมาณวันที่ 14 พ.ค.2552 เวลาประมาณ 22.30 น. นายนเรศฯ และ นายสิทธิชัยฯ บุตรชาย ได้ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธมีดและท่อนไม้ แทง และทุบตี นายวีระพล (สงวนนามสกุล) บาดเจ็บสาหัสในพื้นที่ สภ.ศรีราชา จว.ชลบุรี หลังจากนั้นเมื่อช่วงปลายปี 2553 นายนเรศฯ กับนายสิทธิชัยฯ บุตรชายได้พากันไปเดินเที่ยวงานตามสถานบันเทิง แล้วบุตรชายไปมีเรื่องทะเลาะกันกับกลุ่มที่มาเที่ยวอีกกลุ่มโดยมีการพูดจาท้าทายกันไปมากับผู้ตาย จนผู้ตายที่มากับกลุ่มเพื่อน อาศัยว่ามีคนมากกว่าจึงเข้ารุมทำร้ายบุตรชาย นายนเรศฯ เห็นบุตรชายสู้ไม่ได้จึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงใส่คู่อริตายแล้วพากันหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม  รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ นายนเรศฯ และนายสิทธิชัยฯ บุตรชาย ต่อศาลจังหวัดชลบุรี ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ” 

พฤติการณ์ในการจับกุม   เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่า นายนเรศฯ ผู้ต้องหามาเปิดร้านเครื่องเสียง อยู่บริเวณปากซอยชากนอก 16 ถ.ชากนอก ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้ทำการดักซุ่มบริเวณใกล้เคียง ต่อมา พบ ผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่บริเวณหน้าร้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวพร้อมแสดงหมายจับให้ นายนเรศฯ ดูและได้อ่านข้อความในหมายจับและให้อ่านเองจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว นายนเรศฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริงและไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อนแต่อย่างใดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้บริเวณสถานที่จับกุมยังพบ นางสาวณภัทร แก้วมณี ภรรยาผู้ต้องหา อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา  ที่ จ.5/2563 ลง 10 ม.ค.53  ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” จึงได้นำตัวส่ง พงส.สภ.บางน้ำเปรี้ยว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบสวนเบื้องต้น  นายนเรศฯ  ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา