ตม.1 จับหนุ่มเมียนมาแสบปลอมดวงตราประทับของ ตม. – โอเวอร์สเตย์ถึง 848 วัน

ตม.1 โชว์ผลงานจับกุมรอบสัปดาห์ จับหนุ่มเมียนมาแสบปลอมดวงตราประทับของ ตม. – โอเวอร์สเตย์ถึง 848 วัน และจับกุมกระทำความผิดข้อหาอื่นอีกกว่า 21 ราย

วันนี้ 16 พ.ย.2563 เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ภัคพงศ์  สายอุบล รอง ผบก.ตม.1(งานสืบสวนป้องกันปราบปราม) และทำหน้าที่ในฐานะรอง โฆษก สตม. และโฆษก บก.ตม.1 อีกหน้าที่หนึ่งเปิดเผยว่า พ.ต.อ.ชัชวาลย์  ทิพย์พิชัย ผกก.สส.บก.ตม.1, พ.ต.ท.ธนากร นิ่มมะโน รอง ผกก.สส.บก.ตม.1, พ.ต.ท.บุญเรือง เล็กน้อย รอง ผกก.สส.บก.ตม.1   สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม.1  ออกตรวจเข้มต่างด้าวและจับกุมผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 พร้อมทั้งระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่รับผิดชอบ ในห้วงระหว่างวันที่ 9 -15 พ.ย.63 ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันปราบปราม และจับกุมบุคคลต่างด้าวที่เข้ามากระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ  รวมถึงแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง  และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจัง

พ.ต.อ.ภัคพงศ์ รอง ผบก.(งานสืบสวนป้องกันปราบปราม) บก.ตม.1 และ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ร่วมกันเปิดเผยผลการปฏิบัติในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในรอบสัปดาห์ ของ บก.ตม.1ระหว่างวันที่ 9- 15 พ.ย.63 สามารถจับกุมผู้ที่กระทำผิดกฎหมายได้ 18  คดี และได้ตัวผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 21 ราย ดังนี้

1. จับกุม นางสาวฮองหลาย, นางสาวอลิสา, นายธงไช  สัญชาติลาว ,นายอ่อง สัญชาติเมียนมา และนางสาวเอือย สัญชาติกัมพูชา รวมทั้งหมด 5 ราย ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

2. จับกุม นางสาวเย็น, นางสาวเฮง สัญชาติกัมพูชา, นายคุน สัญชาติเมียนมา รวม 3 ราย ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”

3. เปรียบเทียบปรับ นายณัฎฐ์, และนางสาวจุฑาทิพย์ (สงวนนามสกุล) สัญชาติไทย รวม 2 ราย ในข้อหา เป็นเจ้าบ้าน เจ้าของ หรือผู้ครอบครอบเคหะสถาน หรือผู้จัดการโรงแรมรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยโดยไม่แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม ม.38 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2522”

4. จับกุมนายยาน, นายซิ, นายไซ สัญชาติเมียนมา, นางสาวตลือ, นายที, นายพอล, นางสาวสุภานิล สัญชาติกัมพูชา, นางเอ  สัญชาติเมียนมา รวมทั้งหมด 8 ราย ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

5. จับกุมข้อหาอื่น ๆ จำนวน 3 ราย  พร้อมควบคุมทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากผลการจับกุมดังกล่าวมีคดีที่สำคัญ คือ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถจับกุมนายคุน สัญชาติเมียนมา ได้ที่ บก.ตม.1 ซึ่งจากการตรวจสอบในหนังสือเดินทางอย่างละเอียดพบว่าได้มีการประทับดวงตราปลอมลงในหนังสือเดินทาง และมีการลงลายมือชื่อปลอมของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายคุน ให้การว่าได้ส่งหนังสือเดินทางให้ชายไทยไม่ทราบชื่อดำเนินการ และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรล่าสุดถึงวันที่ 15  ก.ค.2561 การอนุญาตสิ้นสุด จึงได้แจ้งข้อหา “ใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอมขึ้น” และ “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกิน 484 วัน)  พร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป

สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตานโยบายของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม,  พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน  ไกรทอง รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 ที่ได้สั่งการให้ออกปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่องในพื้นที่รับผิดชอบ ให้มีผลการปฏิบัติโดยเข้มงวดกวดขันแรงงานต่างด้าวเถื่อน และผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย และให้เพิ่มความเข้มงวดในการใช้มาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงกำชับเจ้าหน้าที่ ตม. ทุกหน่วย ให้จับกุมผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยการหลบหนีมาทางช่องทางธรรมชาติโดยไม่ผ่านขั้นตอนการคัดกรอง เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และได้กำชับทุกหน่วยให้ระดมกำลังกันตรวจสกัด และให้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีการละเมิดกฎหมายอื่น ๆ อีก รวมถึงให้ติดตามความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งให้คำแนะนำแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ที่รับผิดชอบให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยให้กับประชาชน และเพื่อความมั่นคงของประเทศ 

ทั้งนี้หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแส หรือพบเห็นการกระทำความผิดของคนต่างด้าว ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1178  หรือ ที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้ทันที