รอง บช.น.แถลงเรื่องการกวดขันจับกุมลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล

 เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ในฐานะโฆษกบช.น. เปิดเผยว่า ตามนโยบายพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ตำรวจทั่วประเทศดำเนินการกวดขันจับกุมลักลอบเล่นการพนันทุกพื้นที่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บช.น.จับกุมผู้ต้องหาคดีลักลอบเล่นการพนันในซอยแจ้งวัฒนะ 14 ดำเนินคดี ศาลพิพากษาลงโทษผู้ต้องหาที่เป็นเจ้ามือ 13 คน จำคุก 7 เดือน 15 วัน ปรับ 15,000 บาท ส่วนผู้เล่นอีก 81 คน จำคุก 15 วัน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี แยกดำเนินคดีเกี่ยวกับพ.ร.บ.ควบคุมโรค

    พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยต่อว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลจับกุมผู้ต้องหาค้างเก่า ตรวจค้นบริเวณภูมิเฮ้าส์ หรือฟินเฮ้าส์ ย่านดอนเมือง จับกุมลักลอบเปิดบ่อนการพนันพบตู้ไฟฟ้า 5 ตู้ โต๊ะพนันเสือมังกร 1 โต๊ะ โดยพบว่าผู้ดูแลคือนายอำนวย เกียรติดอนเมือง เป็นผู้ดูแลมีหมายจับศาลแขวงดอนเมืองที่ 1610/2563 ข้อหาให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพักอาศัยซ่อนเร้นฯ และรับคนต่างด้าวเข้าทำงานและเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันเสือมังกร และทำกิจกรรมมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ นำส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ดำเนินคดี ส่วนอีกจุดหนึ่ง ชุดสืบสวนนครบาลได้เข้าตรวจสอบอาคารที่มีการร้องเรียนเล่นการพนันย่านปิ่นเกล้า โดยพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้สั่งการให้ตรวจสอบ พบนายพุฒิพงศ์ กลงทอง เป็นผู้ดูแลอาคาร จากการสอบภามยืนยันว่า เคยมีการใช้สถานที่ดังกล่าวลักลอบเล่นการพนันแต่ปิดไปตั้งแต่ก่อนช่วงโควิดแล้ว

  พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยต่อว่า ในส่วนพื้นที่ดอนเมือง ยืนยันว่า นายอำนวยเป็นเจ้าของบ่อนจริง ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย มีเพียงแค่อุปกรณ์การเล่น ส่วนกรณีนายอำนวยนำแรงงานต่างด้าวเกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าว 18 คนติดไวรัสโควิด-19 จำนวน 7 คนหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเชิงลึก ส่วนตำรวจจะมีข้อบกพร่องหรือไม่ หากมีต่างด้าวเข้ามาจำนวนมาก ต้องดำเนินการตรวจสอบ ในขณะนี้ยังไม่มีข้อบกพร่องแต่อย่างใด ซึ่งการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวเป็นหน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเป็นหน่วยงานหลัก โดยทางตำรวจนครบาลจะมีการประสานงานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง

    เมื่อถามถึงกรณีตรวจสอบบ่อนก่อนหน้านี้ทำไมไม่ทำการตรวจสอบนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจต้องตรวจสอบอยู่แล้ว แต่เมื่อมีข้อมูลไปยังบ่อนการพนันที่ใดต้องดำเนินการตรวจสอบ  ซึ่งเมื่อปี 63 บช.น.มีผลการจับกุมการลักลอบเล่นการพนันที่มีผู้เล่นมากกว่า 20 คน จำนวน 16 ราย ผู้ต้องหา 351 คน ในส่วนความผิดเกี่ยวกับการพนันอื่นๆจับกุมได้ 3,811 ราย ผู้ต้องหา 6,231 คน และตรวจยึดอุปกรณ์เครื่องเล่นพนันจำนวนมาก โดยมีการจับกุมอย่างสม่ำเสมอ ส่วนที่มีการเล่นก็อาจจะลักลอบเล่นการพนัน อ้างว่ามีคนโทรไปแจ้งให้ยกเลิกบ่อนนั้น กรณีดังกล่าวไม่สามารถเปิดบ่อนได้ และถ้าพยานหลักฐานพาดพิงยืนยันว่าใครจัดให้มีการเล่นการพนัน ตำรวจต้องดำเนินคดีทุกราย

    พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยอีกว่า มาตรฐานโยกย้ายข้าราชการตำรวจที่บกพร่อง ต้องดูรายละเอียดพฤติกรรมและการดำเนินการแต่ละสถานีตำรวจ ถ้าพบว่ามีความบกพร่อง ผบช.น. จะสั่งดำเนินการทางตรวจสอบทันที ส่วนยืนยันได้หรือไม่ว่าไม่มีบ่อนนั้น อาจจะมีการแอบลักลอบเล่นการพนันบ้าง แต่หากพบก็ต้องดำเนินคดี  ส่วนกรณีมีผู้ป่วยโควิด-19 ระบุว่ามีการไปทำงานที่บ่อนนั้น ต้องทำการตรวจสอบว่าไปทำงานในบ่อนหรือเป็นเพียงแค่งานจัดเลี้ยงหรือไม่ ส่วนที่มีการระบุว่าไปเล่นที่บ่อนลอยฟ้านั้น คงต้องสอบสวนอีกครั้ง เพราะจากคำให้การเป็นพยานหลักฐานต้องดำเนินการพิสูจน์ทราบ พยานหลักฐานอื่นๆก็ต้องตรวจสอบ อาทิ พยานบุคคลที่อยู่ในพื้นที่

    ส่วนข้อมูลในส่วนนครบาลมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันมากแค่ไหนนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เป็นข้อมูลลับทางราชการ ไม่สามารถเปิดเผยได้ หากเปิดเผยจะทำให้กระทบกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่ยืนยันว่าชุดปฏิบัติการแต่ละชุดทำการตรวจสอบรายงานเข้ามาให้ทางบช.น.รับทราบ.