ตำรวจ ปคม.รวบสองพี่น้องขบวนการค้ากามบรูไน หลอกว่าไปทำงานนวด รายได้ดี

ตำรวจ ปคม.รวบสองพี่น้องขบวนการค้ากามบรูไน หลอกว่าไปทำงานนวด รายได้ดี เดือนละแสนถึงสองแสน มีอาหาร ที่พักฟรี มีคุณภาพชีวิตดี แต่สุดท้ายไปถึงถูกบังคับให้ค้าประเวณี

​กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผบก.ปคม.ิพ.ต.อ.จิรเดช พระสว่าง, พ.ต.อ.ฐากูร นิ่มสมบุญ, พ.ต.อ.อภิรักษ์ เวชกาญจนา, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.ดุสิต จิตรขุนทด รอง ผกก.5 บก.ปคม.,

พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ปคม. และ พ.ต.ต.มนัส นิลกรรณ์ สว.กก.5 บก.ปคม. นำกำลังร่วมกันจับกุมตัวองพี่น้องขบวนการค้ากามบรูไน

1. นายสมชาย สุขสอน อายุ 55 ปี ที่อยู่ 169 ม.3 ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1018/2563 ลง 10 กรกฎาคม 2563 โดยกล่าวหาว่า“สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อทำการค้ามนุษย์ และได้มีการกระทำผิดค้ามนุษย์ตามที่สมคบกัน ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์ที่มิชอบจากการค้าประเวณีฯ” โรงเรียนเทศบาลตำบลเวียงเหนือ ม.5 ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย


​​ 2. นายราเชนทร์ สุกสอน อายุ 49 ปี ที่อยู่ 169 ม.3 ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1020/2563 ลง 10 กรกฎาคม 2563 โดยกล่าวหาว่า“สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อทำการค้ามนุษย์ และได้มีการกระทำผิดค้ามนุษย์ตามที่สมคบกัน ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์ที่มิชอบจากการค้าประเวณีฯ” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าโรงพยาบาลเวียงสา ถ.ยันตรกิจโกศล ต.กลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน


สืบเนื่องจาก น.ส.เอ และ น.ส.บี (ผู้เสียหาย) ซึ่งเป็นชาวอำเภอหาดใหญ่ ถูก นางพันณิพา สุกสอน (ผู้ต้องหาที่ ๑) , นายสมชาย สุขสอน (ผู้ต้องหาที่ ๒) และน.ส.ขวัญนภา เย็นใจ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ร่วมกันชักชวนหลอกไปทำงานนวดที่ประเทศบรูไน โดยโน้มน้าวชักจูง ว่าหากไปทำงานนวดจะมีรายได้ต่อเดือนประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ – ๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยหากไปทำงานจะมีอาหาร ที่พักฟรี มีคุณภาพชีวิตดี พร้อมฟรีค่าดำเนินการต่างๆ เมื่อ น.ส.เอ และน.ส.บี ไปถึงเมืองบันดาเสรีเบกาวัน ประเทศบรูไน พบว่าสภาพความเป็นอยู่ไม่เป็นไปตามที่อ้างไว้ และยังถูกบังคับให้ค้าประเวณี น.ส.เอ และ น.ส.บี จึงต้องจำใจ เพราะหนีไม่ได้ แถมไม่มีเงินและไม่มีวีซ่า ไม่ได้เงินค่าแรงตามที่ตกลงกันไว้ และเงินที่ได้มานั้นผู้ต้องหากับพวกยึดเอาไว้หมด


กระทั่งวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๒ น.ส.เอ เริ่มทนไม่ไหว แถมยังเจ็บป่วยไม่สบาย เมื่อเห็นว่าได้ทำงานมากพอที่ชดใช้หนี้ครบแล้ว จึงได้ขอกลับประเทศไทย แต่นาง พันณิพาฯ ผู้ต้องหาที่ ๑ ไม่ให้กลับ และยังบังคับให้ทำงานต่อ แม้ น.ส.เอ จะเจ็บป่วย หรือเป็นประจำเดือน ถ้าอยากจะกลับต้องจ่ายค่าไถ่จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท นางพันณิพาฯ ผู้ต้องหาที่ ๑ ข่มขู่ว่าจะเอาหนังสือเดินทางไปแจ้งตาย เพื่อไม่ให้ออกนอกประเทศ และอ้างว่าตัวเองเป็นมาเฟียใหญ่ รู้จักกับเจ้าหน้าที่ประเทศบรูไน และสั่งให้นายสมชายฯ ผู้ต้องหาที่ ๒ ขัง น.ส.เอ โดยล็อคประตูเพื่อไม่ให้หนี จากนั้นสั่งให้ น.ส. เอ เก็บเสื้อผ้า แล้วให้นายราเชนทร์ สุกสอน (ผู้ต้องหาที่ ๔) มารับ และไปส่งที่เมืองเขตสุบกให้อยู่แยกกับคนอื่น น.ส.บี เห็นการกระทำความผิดของผู้ต้องหาทั้ง ๔ ราย ที่กระทำต่อ น.ส.เอ จนเกิดความหวาดกลัวกับทั้ง น.ส.บี เอง ยังถูกนางพันณิพาฯ ผู้ต้องหาที่ ๑ ข่มขู่ ทำให้หวั่นเกรงว่าจะได้รับอันตรายกับตัวเอง


​ต่อมา วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๒ น.ส.เอ และ น.ส.ซี (พยาน) เห็นโอกาสที่จะหลบหนี โดยพยายามขอความช่วยเหลือตนเองและหญิงไทยที่อยู่ด้วยกันทั้งหมดไปยังสถานทูตไทย จึงได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศไทย และมาพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีนี้ จนถึงที่สุด


​หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว นางพันณิพา สุกสอน ถูกจับกุมตัวอยู่ที่เรือนจำประเทศบรูไน ส่วน
น.ส.ขวัญนภา เย็นใจ ถูกจับกุมตัวในข้อหา “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อทำการค้ามนุษย์ และได้มีการกระทำผิดค้ามนุษย์ตามที่สมคบกัน ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์ที่มิชอบจากการค้าประเวณีฯ” ถูกคุมขังอยู่เรือนจำคลองเปรม
​ต่อมาวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกับกับการ 5 กองบังคับการปรามปรามการค้ามนุษย์ สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองต่างได้หลบหนีอยู่ที่ อ.เวียงสา จ.น่าน และอ.เวียงชัย จ.เชียงราย จึงเดินทางได้ไปตรวจสอบ และทำการสืบสวน สืบทราบว่านายสมชาย สุขสอน ผู้ต้องหาตามหมายจับ หลบหนีอยู่ อ.เวียงสา จ.น่าน จึงได้เฝ้าติดตามจนพบนายสมชาย ฯ อยู่ที่โรงพยาบาลเวียงสา อ.เวียงสา จ.น่าน ส่วน นายราเชนทร์ สุกสอน ผู้ต้องหาตามหมายจับ หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ โรงเรียนเทศบาลตำบลเวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่กองกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง นำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ดำเนินคดี ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”


กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์
“ตำรวจ ปคม. ห่วงใยทุกชีวิต ใกล้ชิดประชาชน”
ศูนย์ราชการอาคาร บี ชั้น 4 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ๑๐21๐
โทรศัพท์กลาง ๐๒-142-1068

กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์