สาวเตือนภัย! เว็ปหลอกลงทุนเครื่องชาร์จพลังงาน สุดท้ายเชิดเงินหาย

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. และ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการนำเสนอข่าว “สาวเตือนภัย! เว็ปหลอกลงทุนเครื่องชาร์จพลังงาน สุดท้ายเชิดเงินหาย ผู้เดือดร้อนหลายคนทั่วประเทศ” ว่า

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีผู้เสียหายรายหนึ่งได้เจอเว็ปไซต์เกี่ยวกับธุรกิจพลังงาน ที่มีประวัติความเป็นมาน่าเชื่อถือ ซึ่งได้เปิดให้ผู้ที่สนใจมาร่วมลงทุนโดยให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงและคืนต้นทุนได้เร็ว อีกทั้งยังให้ค่าตอบแทนเพิ่มเติมหากชักชวนผู้อื่นมาร่วมลงทุนด้วย ซึ่งก็จะขึ้นให้เห็นเป็นยอดเงินในบัญชีผู้ใช้งานของเว็ปไซต์ แต่จะถอนเงินได้ก็ต่อเมื่อถึงวันที่กำหนดเท่านั้น ด้วยเงื่อนไขในการลงทุนที่ง่ายและให้ผลตอบแทนสูง ทำให้มีผู้คนสนใจร่วมลงทุนกันหลายคน จนเมื่อถึงวันที่ทางเว็ปไซต์กำหนดว่าสามารถถอนเงินได้ กลับไม่มีใครได้รับเงินตามที่แจ้ง ทำให้ผู้เสียหายที่คาดหวังว่าจะได้รับเงินมาเพื่อเยียวยาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้รับความเสียหายกันหลายราย อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำจิตใจของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนกันอยู่แล้วให้ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก

ผู้ที่กระทำลักษณะดังกล่าวนั้นมีความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ขอให้ผู้เสียหายมาร้องทุกข์และส่งมอบหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี ให้พนักงานสอบสวนในท้องที่นั้นๆ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนโยบายให้ทุกหน่วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน ให้ทราบถึงพิษภัยและรูปแบบของการฉ้อโกงต่างๆ นอกจากนี้ยังได้เร่งสั่งการให้ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อน โดยการเร่งทำการสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และตัดโอกาสในการกระทำความผิดต่อไป

รอง โฆษก ตร. และ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนให้ระวัดระวังในการจะลงทุนในธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนว่าธุรกิจนั้นๆ มีอยู่จริงหรือไม่ ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในลักษณะที่ให้ผลตอบแทนที่สูงผิดปกติ, เร่งรัดการตัดสินใจ, การีนตีผลตอบแทนและไร้ความเสี่ยง และหากพบเบาะแส สามารถแจ้งไปยัง Call Center ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 1599 หรือ 191