ตำรวจสุรรณฯ จับทันควันโจรขี้ยาบุกขโมยเงินแม่ค้าร้านชำกว่า60,000บาท

ที่ จ.สุพรรณบุรี ร.ต.อ.ประยุทธ์ นุชนารถ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ว่ามีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 36/36 ถนนนางแว่นแก้ว ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี คนร้ายได้ของกลางเป็นเงินสดจำนวนมากหลบหนี จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสุพรรณบุรี กำลังสายตรวจรถยนต์ จักรยานยนต์ ฝ่ายสืบสวนและอาสากู้ภัยสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี และชาวบ้านนำอุปกรณ์ส่องแสงสว่าง มาช่วยกันค้นหาภายในป่ากก ข้างหมู่บ้านน้ำเพชร 4 ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 50 เมตรเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมกระจายกำลังค้นหาใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็พบตัวคนร้ายซุกตัวอยู่ในป่ากก จึงควบคุมออกมาตรวจค้นจากการตรวจค้นในตัวพบเงินสดจำนวน 63,000 บาท ก่อนนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุภายในบ้านซึ่งเป็นทาวเฮาท์3ชั้น


จากการสอบถามนางกัลยา โพธิ์ศรี อายุ 50 ปีผู้เสียหายเล่าว่าตนเป็นเจ้าของร้านขายของชำก่อนเกิดเหตุได้กลับมาจากร้านมาถึงบ้านช่วงเวลาประมาณ 16.30 น.ก่อนจะเปิดประตูเข้าบ้านแล้ววางกระเป๋าสะพายภายในมีเงินสดอยู่จำนวน 36,000บาทวางไว้บนโต๊ะรีดผ้า แต่ไม่ได้ล็อกประตู จากนั้นได้นอนพักผ่อนอยู่ที่โซฟาชั้นล่างโดยมีลูกชายบีบนวดให้กระทั่งตนเผลอหลับด้วยความอ่อนเพลียส่วนลูกชายได้ขึ้นไปที่ชั้นสอง กระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น.ตนตื่นขึ้นมาและเตรียมตัวจะไปร้านแต่ไม่เห็นกระเป๋าจึงเดินหาทั่วในบ้านก็ไม่เห็นจึงเดินออกไปดูที่ถังขยะหน้าบ้านก็ไม่มีระหว่างนั้นได้สอบถามเพื่อบ้านว่ามีใครเห็นคนเข้ามาในบ้านหรือไม่ก็ไม่มีใครเห็นตนจึงเรียกลูกชายให้ลงมาช่วยตามหาโดยขี่รถจักรยานยนต์เลาะไปตามถนนซอยในจนถึงป่ากกท้ายซอยเห็นชายต้องสงสัยเดินอยู่เมื่อเห็นตนชายคนดังกล่าวได้วิ่งหนีเข้าไปในป่ากกตนจึงเอะใจว่าน่าจะเป็นคนร้ายจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยค้นหากระทั่งได้ตัวพร้อมของกลาง


จากการสอบสวนนายสุรินทร์ ใจแสน อายุ 25 ปีบ้านอยู่ ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ผู้ต้อหาที่ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าตนเป็นคนขโมยเงินของผู้เสียหายจริง สาเหตุที่ขโมยเงินก็เพราะว่าอยากได้เงินไปลงทุนขายของชำเพื่อตั้งต้นใหม่ให้ชีวิตดีขึ้นลบคำสบประมาทที่มีคนว่าเราทำตัวไร้สาระ จากเมื่อก่อนที่เคยมีงานทำที่ดีมีชีวิตที่ดี ตนเคยล้ม และก็ลุกแล้วก็พลาดอีก เมื่อก่อนตนเคยทำงานโครงสร้าง ของบริษัทญี่ปุ่น ทำอยู่กับญาติเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนผู้สื่อข่าวถามว่าเสพยาเสพติดหรือเปล่าผู้ต้องหารับว่าเสพแต่ไม่ติดตนอยากเลิกเมื่อถามว่ายังเสพอยู่หรือไม่ผู้ต้องหาตอบว่าเสพมั่งไม่เสพ แต่ไม่ยอมรับว่าติดยา ตนเคยถูกจับคดีครอบครองยาเสพติดพ้นโทษได้ประมาณ 1 ปีและเคยถูกจับคดีลักทรัพย์ เบียร์ 13 ขวดที่ลักเพราะตนอยากดื่ม


หลังจากนั้นก็ไม่เคยก่อเหตุกระทั่งมาวันนี้ขณะที่ตนเดินผ่านบ้านหลังเกิดเหตุจึงลองเปิดประตูเหล็กหน้าบ้านพบว่าประตูไม่ได้ล็อก จึงเดินไปมาเปิดประตูเข้ามาในบ้านเห็นเจ้าของบ้านนอนหันหลังอยู่บนโซฟาจึงลองเรียกดูแต่เจ้าของบ้านไม่ตื่นระหว่างนั้นสายตาเหลือบไปเห็นกระเป๋าสะพายวางอยู่บนโต๊ะรีดผ้าจึงเดินไปหยิบมาถือไว้ก่อนเดินออกจากบ้านอย่างสบายใจกะว่าจะไปเปิดกระเป๋าดูว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่แต่ยังไม่ทันได้เปิดเจ้าของมาเจอเข้าก่อนแจ้งตำรวจตามจับได้ดังกล่าวเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน ก่อนควบคุมตัวส่งดำเนินคดีต่อไป