กองปราบ ปิดตำนานหนุ่มแสบหลอกขายตู้คอนเทนเนอร์ ตรวจสอบพบเหยื่อถูกหลอกเพียบ

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก  เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รอง ผกก.3 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.กรกช ยงยืน, พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก รอง ผกก.2 บก.ปทส. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป. และ พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป.    

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.ท.กิตติธัช เทียนแก้ว, ร.ต.ท.เฟื่องฤทธิ์ ศรีนวล รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี  ชาว จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.26/2564  ลงวันที่ 19 มกราคม 2564 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน“ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้างโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป”

พฤติการณ์ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 – วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 นายอาทิตย์ฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นลูกจ้างบริษัทของผู้เสียหาย มีหน้าที่ในการจัดการดูแลตู้คอนเทนเนอร์ ได้ทำการขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัท จำนวน 6 ตู้ ออกจากพื้นที่ โดยผู้ต้องหาได้ส่งอีเมลแจ้งไปยังบริษัทให้บริการลานเช่าสถานที่พักตู้คอนเทนเนอร์ ให้ทำการปล่อยตู้คอนเทนเนอร์จำนวนดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 25 เมษายน 2557 บริษัทของผู้เสียหายได้เดินทางมาตรวจสอบ พบว่าตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัทฯ หายไป มูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 บาท บริษัทฯ จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับ นายอาทิตย์ฯ

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเปิดเฟซบุ๊กและประกาศขายตู้คอนเทนเนอร์ มือ 2 ตามกลุ่มต่างๆ อีกด้วย โดยมีผู้หลงเชื่อโอนเงินให้ผู้ต้องหาจำนวนหลายราย และถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว ดังนี้

1. พื้นที่ สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์  เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 ผู้ต้องหาเสนอขายตู้คอนเทนเนอร์ผ่านเฟซบุ๊กกลุ่ม บ้านสำเร็จรูป บ้านน็อคดาวน์ ตู้คอนเทนเนอร์ โดยให้ผู้เสียหายวางเงินมัดจำ จำนวน 3 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 79,600 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาส่งสินค้า กลับไม่นำสินค้าจัดส่งให้แต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งในคดีนี้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ และมีการชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายแล้ว

2. พื้นที่ สน.สายไหม เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563  ผู้ต้องหาเสนอขายตู้คอนเทนเนอร์ให้กับผู้เสียหายผ่านเฟซบุ๊ก จำนวน 2 ตู้ ราคา 52,000 บาท พร้อมเก็บเงินปลายทางอีกจำนวน 10,000 บาท ต่อมาเมื่อถึงกำหนดนัดส่งสินค้า ผู้ต้องหาได้ขอเลื่อนนัดออกไป และภายหลังก็ไม่มีการนำตู้คอนเทนเนอร์มาส่งให้อีก ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งในคดีนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ และมีการชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายแล้ว

 นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงในลักษณะเช่นเดียวกันนี้อีกจำนวนหลายราย ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายได้มีการประชาสัมพันธ์เตือนภัยไว้ในสื่อออนไลน์จำนวนมาก ดังนี้

1. พื้นที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 ผู้ต้องหาได้เสนอขายตู้คอนเทนเนอร์มือ 2 ให้กับผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก จำนวน 1 ตู้ พร้อมค่าขนส่ง และอุปกรณ์ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวน 13,520 บาท

2. พื้นที่ สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ผู้ต้องหาได้เสนอขายตู้คอนเทนเนอร์มือ 2 ให้กับผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก จำนวน 2 ตู้ พร้อมค่าขนส่ง ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวน 105,000 บาท

3. พื้นที่ สน.บางพลัด เหตุเกิดประมาณ มกราคม 2564 ผู้ต้องหาได้เสนอขายตู้คอนเทนเนอร์มือ 2 ให้กับผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวน 79,000 บาท

4. เหตุเกิดประมาณ กุมภาพันธ์ 2564 ผู้ต้องหาได้เสนอขายตู้คอนเทนเนอร์มือ 2 ให้กับผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยให้วางมัดจำจำนวน 30,000 บาท แต่ภายหลังได้มีการคืนเงินให้กับผู้เสียหายแล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกดำเนินคดี

กองบังคับการปราบปรามเล็งเห็นว่าผู้ต้องหารายนี้ ยังคงก่อเหตุในลักษณะเดิมเรื่อยมา ซึ่งเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อป้องกันความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง และเป็นการป้องปรามการกระทำความผิดในรูปแบบเช่นนี้ จึงได้สั่งการให้ กก.2 บก.ป. ดำเนินการเร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาอาศัยภายใน ซ.เพชรหึงษ์ 47 หมู่ 2 ต.บางกอบัว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ จนกระทั่งวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 06.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้างโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป”แต่ให้การรับสารภาพว่าตนเองได้เปิดเฟซบุ๊กขายตู้คอนเทนเนอร์มือ 2 จริง โดยมีบางรายที่ตนขายสินค้าให้จริง และในส่วนที่ไม่ได้ส่งสินค้าให้นั้น เกิดจากตนหาสินค้าราคาถูกตามที่เสนอขายให้กับผู้เสียหายไม่ได้ จึงนำเงินของผู้เสียหายรายอื่นไปคืนให้ผู้เสียหายคนก่อนหน้าที่มูลค่าน้อยกว่า หรือคืนให้กับผู้เสียหายที่กำลังแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งตนทำลักษณะเช่นนี้มาเป็นทอดๆ และในส่วนของรูปตู้คอนเทนเนอร์นั้น เป็นภาพจากบริษัทเก่าที่ตนเคยถ่ายไว้