รวบท้าวแชร์ “บ้านน้ำ ออมเงิน ออมทอง” หลอกผู้เสียหายหลายร้อยราย ก่อเหตุซ้ำหลายคดี

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.๒ บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธ์ รอง ผกก.3 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.กรกช ยงยืน, พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก รอง ผกก.2 บก.ปทส. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.กรพงศ์ วงษาลังการ สว.กก.๒ บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.สุดารัตน์ หรือน้ำ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับดังนี้

  1. ตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ 104/2564 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ข้อหา “ฉ้อโกง”
  2. ตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ 105/2564 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ข้อหา “ฉ้อโกง”
  3. ตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ 111/2564 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ข้อหา “ฉ้อโกง”

สถานที่จับกุม บริเวณลาดจอดรถหน้าคอนโด ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.30 น.

พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อปลายปี 2560 มีกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกหลอกให้เข้าร่วมกลุ่มแชร์ “บ้านออมเงิน และออมทอง” โดยกลุ่มผู้เสียหายรู้จักกลุ่มเเชร์ของผู้ต้องหาผ่านกลุ่มแชร์ที่ผู้เสียหายเป็นสมาชิกอยู่ ซึ่งผู้ต้องหาแจ้งว่าตนเปิดกลุ่มแชร์เช่นกัน แต่ให้ผลตอบรับดีกว่า คือหากออมเงิน จำนวน 1,000 บาท จะได้รับผลตอบแทนเป็นจำนวนเงิน 1,300 บาท ภายใน 2 วัน ออมทอง จำนวนเงิน 19,000 บาท จะได้รับทองคำหนัก 1 บาท ภายใน 3 วัน กลุ่มผู้เสียหายจึงหลงเชื่อเข้าร่วมวงแชร์ โดยในช่วงแรกผู้เสียหายได้รับผลตอบแทนตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง จึงได้มีการนำเงินมาร่วมลงทุนอีกหลายแสนบาท แต่ต่อมาผู้ต้องหากลับหายเงียบไป กระทั่งติดต่อไม่ได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว แต่ได้รับการประกันตัวออกมาเมื่อประมาณปี 2563 แต่ยังคงออกมาก่อเหตุเช่นเคย นอกจากนี้ยังหลบหนีไม่มารับฟังคำพิพากษาของศาล ศาลอาญาพระโขนง จึงอนุมัติหมายจับดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมมากบดานในเขตพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. ทราบ ซึ่งต่อมาได้มีการสั่งการให้ดำเนินการเร่งรัดติดตามผู้กระทำความผิดรายนี้ให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่สร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนกว่า 200 ราย และมีมูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท อีกทั้งผู้ต้องหายังมีพฤติกรรมหลอกหลวงเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง

พ.ต.ต.กรพงศ์ วงษาลังการ สว.กก.๒ บก.ป. จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.2 บก.ป. ลงพื้นที่ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา จนสามารถจับกุมตัวได้ขณะเดินอยู่บริเวณลาดจอดรถหน้าคอนโด ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา หลังจากนั้นจึงได้นำตัวส่ง ศาลอาญาพระโขนง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยไม่ขอให้การในชั้นจับกุมแต่อย่างใด ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่ากลุ่มผู้เสียหายมีการออกมาเตือนภัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ต้องหาทางสื่อออนไลน์ผ่าน https://www.facebook.com/KoratNextStep/posts/5461251257249241/ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่าเคยต้องคดีอาญาในพฤติกรรมลักษณะเดียวกันหลายท้องที่ ดังนี้

  1. หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ 118/2564 ลง 9 มีนาคม ๒๕64 ข้อหา “ฉ้อโกง” สน.อุดมสุข
  2. หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 293/2563 ลง 10 ตุลาคม ๒๕63 ข้อหา “ฉ้อโกง” สภ.เมืองเพชรบุรี
  3. หมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว (ปากช่อง) ที่ 46/2563 ลง 24 กันยายน ๒๕63 ข้อหา “ฉ้อโกง” สภ.หนองสาหร่าย

กองบังคับการปราบปราม จึงขอฝากเตือนภัยประชาชน สำหรับการร่วมลงทุนใดๆก็ตาม หากมีการอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี คืนทุนเร็ว ผลกำไรสูงกว่าปกติ ส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมของมิจฉาชีพ ขอให้ท่านโปรดระมัดระวัง และตรวจสอบข้อมูลก่อนร่วมลงทุนให้ดีเสียก่อน เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ