ตำรวจคุมตัว 2 พี่น้องบังกิบหลีบังกอหนี ผู้ต้องหาขบวนฆ่านายสุชาติส่งฝากขังรือนจำกระบี่

คุมตัว 2 พี่น้องบังกิบหลีบังกอหนีผู้ต้องหาขบวนฆ่านายสุชาติส่งฝากขังเรือนจำกระบี่หลังศาลอนุมัติผลัดแรกบังกิบหลียังปฏิเสธลั่นไม่ได้ทำไม่ได้ยิง 

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เวลา 15.30 นาฬิกา พันตำรวจเอก อภิชาต จินาเพ็ญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ พร้อมด้วยพันตำรวจเอก พิษณุ พ่วงพร้อม ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ร่วมคุมตัวนายสุรชัย หรือบังกิบหลี เริงสมุทร พี่ชายบังฟิต และนายสุริยันต์ หรือบังกอหนี เริงสมุทร น้องชาย สองผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีร่วมกันสังหารโหด นายสุชาติ ขาวล้วน เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่งในพื้นที่อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ ออกจากห้องขังสถานีตำรวจภูธรตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ไปยังเรือนจำจังหวัดกระบี่ หลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 

โดยนายกอหนี เริงสมุทร น้องชาย ยอมเปิดปากรับสารภาพกับพนักงานสอบสวนว่า ได้ช่วยฝังศพและฝังรถนายสุชาติด้วย หลังเจ้าหน้าที่สอบปากคำร่วม 5 ชั่วโมงเมื่อคืนที่ผ่านมา  แต่ไม่สมัครใจทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนบังกิบหลี พี่ชายยังให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดกระบี่ ฝากขังผ่านวีดีโอคอนเฟอเร้นซ์ และศาลจังหวัดกระบี่ได้อนุมัติฝากขังเมือช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายกิบหลี ขึ้นรถอีโอดี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า  ยอมรับหรือไม่ว่าเป็นคนลงมือยิง นายสุชาติ ตามที่พยานให้การซัดทอด บังกิบหลี บอกว่าผมไม่รู้ผมไม่ได้ทำผมไม่ได้ยิงครับ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นรถอีโอดีไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดกระบี่

ขณะที่นางอารักษ์ ทับไทร อายุ 34 ปี ลูกสาวนายสุชาติ ขาวล้วน พร้อมด้วยนายชูวงศ์ มณีกุล ทนายความเดินทางไปที่ศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นเอกสารเพิ่มเติมในการคัดค้านการประกันตัวบังฟิตและพวก ถูกข่มขู่ว่าหากมีการติดตามหรือแจ้งความจะฆ่าทั้งครอบครัว เนื่องจากเกรงว่าหากกลุ่มของบังฟิต ได้ประกันตัวออกมาจะไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยนายชูวงศ์ มณีกุล ทนายความ ระบุว่าปมการสังหารอย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้ มาจากความขัด แย้งระหว่างนายสุชาติ ขาวล้วน กับนายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร เกี่ยวกับธุรกิจมืด ไม่ใช่จากเรื่องเงิน 3 แสนบาท ที่บังฟิตอ้าง อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนอย่างจริงจังกับขบวนการธุรกิจมืดกลุ่มนี้ เชื่อว่ามีกลุ่มผู้กว้างขวางในพื้นที่อยู่เบื้องหลังหลายคน

ด้านนางอารักษ์ ทับไทร ลูกสาวนายสุชาติ เปิดเผยว่า แม้ว่าเจ้าหน้าที่จับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่เผาศพพ่อเนื่องจากต้องรอผลชันสูตรและเอกสารต่างๆก่อน โดยพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่สามารถจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด