อย. ร่วม ปคบ. กวาดล้างเครือข่ายขายยาซิเดกร้าปลอม เตือนซื้อกินเองผลข้างเคียงของการใช้ยาที่ไม่ถูกต้องอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ที่ บก.ปคบ. อาคารบี ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฯ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขา รมว.กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และองค์การเภสัชกรรม โดย นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อานวยการองค์การเภสัชกรรม ร่วมกันแถลงผลการทลายเครือข่ายลักลอบขายยาซิเดกร้าปลอม ทางสื่อสังคมออนไลน์

จากมีการตรวจพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาซิเดกร้า (Sidegra) ซึ่งเป็นยาควบคุมพิเศษ ตามประกาศกระทรวง สาธารณสุข ฉบับที่ 35 ลงวันที่ 12 กันยายน 2551 กลุ่มที่ (54) ยากลุ่มที่ใช้รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction) โดยยาควบคุมพิเศษใช้เฉพาะสถานพยาบาลและร้านยาที่กาหนด และผู้สั่งจ่ายยาต้องเป็นแพทย์ เท่านั้น มาขายให้กับประชาชนทั่วไป ทางสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ที่ซื้อยาดังกล่าวไปใช้เองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ บางรายอาจได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ และองค์การเภสัชกรรมได้มาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการลักลอบปลอมยาซิเดกร้า (Sidegra) ขององค์การเภสัชกรรมจาหน่ายในท้องตลาด

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ในฐานะหัวหน้าคณะทางานฯ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. , พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สืบสวนหาตัวผู้ลักลอบ ขายยาซิเดกร้าปลอม โดยจากการสืบสวนและติดตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องสงสัย พบเครือขายลักลอบขายยาซิเดกร้าปลอม อยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และ ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้ขออนุมัติต่อศาลเพื่อ ออกหมายจับผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าว

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เจ้าหน้าที่ตารวจกองบังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา บุกตรวจค้นพื้นที่ เป้าหมาย 12 จุด ในพื้นที่ 5 จังหวัด ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้จานวน 11 ราย (12หมายจับ)ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ยาหลายรายการในจำนวนนี้มียาซิเดกร้าขนาด100 มิลลิกรัมจำนวน1,632 กล่อง, ยาซิเดกร้าขนาด50 มิลลิกรัมจำนวน1,167 กล่องยาแผนปัจจุบันชนิดต่างๆจำนวน30 รายการแยกเป็นชนิดเม็ด 33,038 เม็ด, ชนิดเป็นซอง 3,045 ซอง ,ชนิดเป็นขวดบรรจุนำ้506 ขวด อุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่ง โทรศัพท์ สมุดบัญชี และ สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีกจำนวนหนึ่ง
ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับ อนุญาต” มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท , ฐาน “ขายยาปลอม” มีอัตราโทษ จำคุกตั้งแต่ 1 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท และ ฐาน “โฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยต่าง ๆ และ อย. ที่ร่วมกันดำเนินการจับกุมเครือข่ายขายยาซิเดกร้าปลอมพร้อมยึด ของกลางจำนวนมาก ไม่ให้หลุดลอดออกไปจำหน่ายทำให้ประชาชนได้รับอันตราย และขอบคุณองค์การเภสัชกรรมที่แจ้ง ข้อมูลในการดำเนินการครั้งนี้ ทางสำนักงานตารวจแห่งชาติ และ อย. จะดำเนินการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ที่ลักลอบ จำหน่ายยาปลอมต่อไป จึงขอแจ้งเตือนให้ผู้ที่กำลังกระทำความผิดลักลอบ ผลิต นำเข้าและจำหน่ายยาปลอมที่ไม่ได้คุณภาพ ให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด และขอเตือนท่านชายทั้งหลายอย่าซื้อยาเพิ่มสมรรถภาพ ทางเพศทางสื่อสังคมออนไลน์มาใช้เอง เพราะอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ผู้ที่จะใช้ยาดังกล่าวควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ยาที่ได้คุณภาพและไม่เกินปริมาณที่กำหนด

หากพี่น้องประชาชนพบเห็น การกระทำความผิดดังกล่าวสามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นการจับกุม เครือข่ายขายยาไวอากร้า ยี่ห้อ ซิเดกร้า (Sidegra) ซึ่งเป็นชื่อการค้าของยาซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม เป็นยาควบคุมพิเศษต้องได้รับการวินิจฉัยและสั่งจ่ายโดยแพทย์โดยยายี่ห้อซิเดกร้า(Sidegra)วางจำหน่ายมี2 ขนาดคือ 50 มิลลิกรัม และ 100 มิลลิกรัม ใช้รักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย โดยยาของกลางที่ถูกยึดได้จากปฏิบัติการ ในครั้งนี้เป็นยาที่ถูกปลอมโดยสมบูรณ์แบบ คือ ปลอมทั้งชื่อการค้าและตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เป็นอย่างมาก ทั้งจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน และอันตรายจากการใช้ยาเกินขนาดจนอาจถึงแก่ชีวิตได้ จึงขอเตือน ไปยังพี่น้องประชาชนว่า ไม่ควรซื้อยาใด ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดียมารับประทานเอง ควรได้รับคำแนะนาในการ ใช้ยาที่ถูกต้องจากเภสัชกร เนื่องจากผลข้างเคียงของการใช้ยาที่ไม่ถูกต้องอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หากพบการลักลอบผลิต นาเข้า จาหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย.1556