ตร. ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการ ในพื้นที่นำร่องส่งเสริมการท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีตามที่รัฐบาลได้มีการเปิดพื้นที่นำร่องส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องใน จ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 เป็นต้นมา ว่า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง จึงได้เปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 64

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมขับเคลื่อนนโยบาลรัฐบาล และได้กำชับสั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดให้ประสานการปฏิบัติระหว่าง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมควบคุมโรค และหน่วยงานในพื้นที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขับเคลื่อนการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตามพิธีการคนเข้าเมืองและตามมาตรการสาธารณสุขที่กำหนด เพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ด้วยอีกส่วนหนึ่ง

โดยในห้วงที่ผ่านมา พบว่ามีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจนพบตัวและเข้าไปทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวดังกล่าว ให้ปฏิบัติตามกฎเป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่สละแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่มาโดยตลอด และขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง รวมถึงดูแลสุขภาพตนเองให้ดี เพื่อจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางที่เข้ามาในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ให้ปฏิบัติตามประกาศ คำสั่ง ข้อกำหนดและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จากทาง ศบค., จ.ภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเรื่องการเข้าพักในโรงแรมที่กำหนดและอยู่พื้นที่ จ.ภูเก็ตเป็นเวลา 14 วัน, การโหลดแอพพลิเคชั่น”หมอชนะ” และเปิดระบบเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่หากแจ้งจากทางโรงแรมว่ามีนักท่องเที่ยวหายไป หรือพบนักท่องเที่ยวที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการก็จะแจ้งมาที่ศูนย์ 191 จากนั้นก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกไปดำเนินการ ซึ่งการตรวจสอบนั้นจะประสานไปยังทุกหน่วยที่เกี่ยวของทั้งสนามบิน, ด่านท่าฉัตรไชย และตรวจสอบข้อมูลจากแอพพลิเคชัน “หมอชนะ” รวมทั้งประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบการเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ตก่อนกำหนดในทุกช่องทาง ทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ นอกจากนี้หากประชาชนหรือนักท่องเที่ยวต้องการความช่วยเหลือหรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด สามารถโทรมายังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติหมายเลขไ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง