ผบ.ตร. พร้อมขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล สั่งกำชับตำรวจประสานงานกับหน่วยร่วมปฏิบัติ โครงการสมุยพลัสโมเดล

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีตามที่รัฐบาลได้ประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่26) ในการเปิดพื้นที่นำร่องส่งเสริมการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องในจังหวัดภูเก็ตไปแล้วตั้งแต่ 1 ก.ค.64 และต่อมาในวันนี้(15 ก.ค.64) ได้มีโครงการ สมุย พลัส โมเดล เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพื้นที่นำร่อง 3 เกาะ ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง นั้นว่า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ เพื่อส่งเสริมภาค ธุรกิจท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการต่อเนื่อง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมดำเนินการตามนโยบาลรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ในการเตรียมความพร้อมและได้กำชับไปยังหน่วยงานในสังกัดให้ประสานการปฏิบัติระหว่าง กระทรวงการต่งประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมควบคุมโรค และหน่วยงานในพื้นที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขับเคลื่อนการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตามพิธีการคนเข้าเมืองและตามมาตรการสาธารณสุขที่กำหนด เพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID -19) ด้วยอีกส่วนหนึ่ง

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่ออีกว่าในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ,กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ มีความพร้อมในการทำงานกับหน่วยร่วมปฏิบัติเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า ตามด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ อีกทั้งดำเนินการมาตรการที่ ศบค. หรือ ศูนย์ปฏิบัติการมาตราการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศได้อนุมัติ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนด อาทิเช่น จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 พร้อมเอกสารรับรองจากประเทศต้นทาง และเมื่อเดินทางถึงนักท่องเที่ยวต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด19 หลังจากนั้นใน 7 วันแรกก็จะเข้าพักอาศัยในโรงแรมที่มีมาตรฐาน Samui Extra+  ส่วนใน 7 วันหลังพักในโรงแรมที่มีมาตราฐาน SHA+ โดยเมื่อผ่านไป 15 วันและนักท่องเที่ยวได้รับการตรวจหาเชื้อแล้วไม่พบก็สามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นได้

ซึ่งหลังจากผ่านการตรวจคัดกรองโรคจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุขและการดำเนินการตามพิธีการคนเข้าเมือง เมื่อนักท่องเที่ยวได้เข้าพำนักในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า เจ้าหน้าที่หน่วยร่วมปฎิบัติก็จะมีมาตราการในการควบคุมและป้องกันโรคตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนด ของ ศบค. และคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้หากประชาชนหรือนักท่องเที่ยวต้องการความช่วยเหลือหรือแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สามารถโทรมายังหมายเลขสายด่วน191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม.