ข่าวปลอม “อดีตผู้กำกับโจ้ ที่ถูกคุมตัวมาดำเนินคดีเป็นตัวปลอม”

วันที่ 31 ส.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่ามีการ ตรวจพบ ข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง
อดีตผู้กำกับโจ้ ที่ถูกคุมตัวมาดำเนินคดีเป็นตัวปลอม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กับ สภ.เมืองนครสวรรค์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ระบุว่าอดีตผู้กำกับโจ้ ที่ถูกนำมาดำเนินคดีเป็นตัวปลอมนั้น ทางสภ.เมืองนครสวรรค์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง พ.ต.ท.ทรงพล สุ่มนิล รอง ผกก.(สอบสวน) หน.งานสอบสวน สภ.เมือง นครสวรรค์ รับคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เป็นคณะสอบสวนคดีผู้กำกับโจ้ อดีตผู้บังคับบัญชายืนยันว่าในวันมอบตัว มีการพบและพูดคุยกับอดีตผู้กำกับโจ้ จึงยืนยันว่าเป็นตัวจริง เนื่องจากการนำตัวไปฝากขังนั้นต้องทำการยืนยันตัวตนด้วย

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.royalthaipolice.go.th หรือโทร 1599

บทสรุปของเรื่องนี้ : พ.ต.ท.ทรงพล สุ่มนิล รอง ผกก.(สอบสวน) หน.งานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ยืนยันว่าในวันมอบตัวมีการพบ และพูดคุยกับผกก. โจ้ จึงยืนยันว่าเป็นตัวจริง เนื่องจากการนำตัวไปฝากขังนั้นต้องทำการยืนยันตัวตนด้วย

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”