รองผบ.ตร. เร่งรัดคดีจับปืนลักลอบส่งออกต่างประเทศ

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ติดตามและเร่งรัดขยายผลการจับกุมผู้ลักลอบนำอาวุธปืน 35 กระบอก ส่งออกต่างประเทศ ซุกซ่อนปะปนกับปุ๋ยเคมี ผ่านด่านพรมแดนด้านจังหวัดหนองคาย กำชับให้ดำเนินการขยายผลยึดทรัพย์ จับกุม ไม่เว้นแม้ผู้ออกใบอนุญาต ป.3

 เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 8 ก.ย.64 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร.(สส.) ได้เดินทางมาประชุมเพื่อเร่งรัดติดตามการดำเนินการในคดีลักลอบนำอาวุธปืนส่งออกต่างประเทศ โดยมี พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จ.หนองคาย นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย, ศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมประชุมหารือ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ก.ค.64 ที่ผ่านมา นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมทางศุลกากรพื้นที่ภาคที่ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายไทย 1 คน พร้อมยึดของกลางปุ๋ยเคมี 300 กระสอบ อาวุธปืนยาว ยี่ห้อ CZ จำนวน 34 กระบอก และปืนพกสั้น ยี่ห้อ WALTHER 1 กระบอก พร้อมรถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อฮีโน่ สีขาวเขียว ทะเบียนหัวลาก 70-2268 หนองคาย ทะเบียนหางลาก 70-1938 หนองคาย ซึ่งซุกซ่อนบนรถสินค้าใช้ผ้าใบปิดอำพรางเจ้าหน้าที่ กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ ผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 242,247 ประกอบมาตรา 252 และเป็นของที่พึงต้องริบตามมาตรา 165,166 และ 167 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ซึ่งของกลางทั้งหมดมีมูลค่าประมาณ 7,000,000 บาท เฉพาะปืนจะมีมูลค่าประมาณ 1,600,000 บาท อีกทั้งเมื่อวันที่ 6 ก.ค.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ทำการตรวจยึดกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 60,000 นัด กำลังจะนำออกนอกประเทศ คาดว่าจะเป็นเครือข่ายกระทำความผิดเดียวกัน โดยจากการตรวจสอบพบว่าปืนทุกกระบอกนั้นมีใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานปกครอง

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขยายผลการจับกุม ขยายผลทำการยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการให้ครอบคลุมทุกประเด็น ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ที่ออกใบอนุญาต ป.3 ต้องมีการตรวจสอบ และให้ตำรวจทุกแห่งดูกรณีนี้เป็นคดีตัวอย่างและทำการตรวจสอบว่ามีลักษณะการก่อเหตุเช่นนี้ในท้องที่จังหวัดอื่นหรือไม่