ข่าวปลอม ตำรวจคุมตัวเด็ก 14 ปี ไปสน.ดินแดง บีบบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิง คฝ.

วันที่ 12 ต.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในสื่ออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ตำรวจคุมตัวเด็ก 14 ปี ไปสน.ดินแดง บีบบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิง คฝ. ในม็อบ 6 ต.ค. 64 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการโพสต์ที่ระบุข้อมูลว่า เยาวชนวัย 14 ปี ถูกตำรวจควบคุมตัวจากบ้านไปยังสน.ดินแดง ตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงวันของวันที่ 10 ต.ค. 64 โดยตำรวจพยายามบีบบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิง คฝ. ในม็อบวันที่ 6 ตุลาคม นั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบ และชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการควบคุมตัว หรือแจ้งข้อหาแก่เด็กแต่อย่างใด หากแต่เป็นขั้นตอนของการสืบสวนตามปกติของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานตามอำนาจและหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และเพื่อที่จะทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการก่อเหตุความไม่สงบบริเวณแฟลตดินแดง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.royalthaipolice.go.th หรือโทร 1599

บทสรุปของเรื่องนี้ : เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการควบคุมตัวหรือแจ้งข้อหาแก่เยาวชนวัย 14 ปีแต่อย่างใด เป็นเพียงขั้นตอนของการสืบสวนตามปกติของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานเท่านั้น

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”