รวบชายคลั่งยิงฉมวกใส่พ่อและเผาบ้านกลางดึก ก่อนจนมุมโดนรวบ

ความคืบหน้ากรณีที่นายเอกชัย แสงทองดีคลุ้มคลั่งเมายาอาละวาดจุดไฟเผาที่พักและใช้ปืนยิงปลายิงพ่อตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในโรงงานเพาะเหล็กเก่า ในซอยสุขสวัสดิ์ 18 ย่านบางมด ตั้งแต่ประมาณ 4 ทุ่มคืนที่ผ่านมา

ในข่วงเช้าวันนี้ ตำรวจ สน. ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งว่าตัวนายเอกชัย มีการย้อนกลับมาจุดเกิดเหตุ จึงมีการจัดกำลังเข้าปิดล้อม โดยมี พลตำรวจตรีมานพสุคนธ์ธนพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 พร้อมด้วยพันตำรวจเอกภัสพงษ์ บุตรไทย ผู้กำกับการ สน. ราษฎร์บูรณะ เป็นผู้ควบคุมปฏิบัติการ โดยมีกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ และชุดปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนกองครับการตำรวจนครบาล 8 ร่วมปิดล้อมพื้นที่

ขั้นตอนการปฏิบัติการเริ่มจากล่วงประมาณ 10.30 มีการพยายามเจรจาโดยใช้มารดาของผู้ก่อเหตุมาเจรจาพูดคุยผ่านเครื่องขยายเสียงของรถตำรวจ แต่ในช่วงแรกตัวนายเอกชัย ยังคงคุ้มคลั่ง ไม่รับ ฟังการเจรจาของมารดาและพยายามด่าทอ และไล่เจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณโรงงานร้างออกไปจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องถอยกลับออกมาวางแผน โดยผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ได้ตัดสินใจเรียกชุดปฏิบัติการพิเศษ และเครื่องมือควบคุม จากที่ตอนแรกมีเพียง ไม้ค้ำยัน โล่ และปืนยิงกระสุนยาง โดยมีการร้องขอปืนยิงตะข่ายและปืนยิงกระสุนยางเพิ่มเติม

ก่อนที่ในเวลาต่อมาตัวนายเอกชัยมีการพยายาม ปืนหลบหนีขึ้นไปหลังคาของโรงงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้ชุดเจรจาเข้าควบคุมอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตัดสินใจปืนเข้าไปในรั้วของโรงงานและเปิดประตูเพื่อให้เจ้าหน้าที่ด้านนอกเข้าไปในพื้นที่โรงงาน เพื่อเริ่มขั้นตอนการเจรจาเกลี่ยกล่อม

ในเวลาต่อมานายเอกชัยเริ่มมีการเจรจาว่าต้องการกินพิซซ่า เจ้าหน้าที่จึงสั่งมาให้โดยตกลงกันว่าจะต้องลงมากินที่ด้านล่าง และรับรองว่า จะให้สื่อและเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการวางแผนในการเข้าคุมตัวไว้โดยให้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้าไปหลบซ่อนตัวด้านหลังของอาคารเพื่อเตรียมควบคุมหากตัวนายเอกชัยลงมาในจุดที่สามารถควบคุมได้ และเตรียมแผนสำรองโดยการประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย กรุงเทพมหานครเตรียมเบาะลมและรถกระเช้าไว้เป็นแผนสำรอง

ก่อนที่ในเวลาประมาณ 12.30 นายเอกชัยเริ่มเย็นลงและปีนเสาลงมา เจ้าหน้าที่จึงเริ่มแผนการเข้าคุมตัว โดยการยิงกระสุนยางใส่ด้านข้างตัวเพื่อให้นายเอกชัยเคลื่อนย้ายมาในทิศทางที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ เมื่อนายเอกชัยลงมาถึงจุดที่เจ้าหน้าที่วางกำลังไว้และอยู่สูงห่างจากพื้นประมาณ 3 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ปลอดภัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 จึงสั่งการให้เข้าควบคุมตัว โดยการใช้ปืนยิงตาข่ายและใช้กำลังเข้าคุมตัวโดยสามารถแย่งปืนยิงฉมวกจากมือของนายเอกชัยได้สำเร็จ ก่อนที่จะมีการพาตัวนายเอกชัยออกจากจากจุดเกิดเหตุไปรักษาตัวเนื่องจากมีร่องรอยบาดแผลจากการถูกสังกะสีหลังคาบาดขณะลงมาจากด้านบนหลังคา

โดยขณะอยู่บนรถพยาบาล นายเอกชัย ระบุกับสื่อมวลชนสั้นๆว่า เป็นห่วงแม่ รักแม่คนเดียว ส่วนพ่อนั้น ไม่ได้เป็นห่วงแต่อย่างใด

พลตำรวจตรีมานพ ระบุว่า ในการปิดล้อมจับกุมหน้าที่ได้เตรียมอุปกรณ์ที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ปืนยิงกระสุนยาง , แก๊สน้ำตา ซึ่งครั้งแรกจะใช้โดรนนำขึ้นไปบินสำรวจและวางแผนจะใช้ก่อกวนผู้ต้องหาแต่ไม่สามารถทำได้ จึงใช้วิธียิงหนังสติ๊กก่อกวนแทน ระหว่างนั้นก็มีความเจรจากับผู้ต้องหาแต่คล้ายยังมีอาการเมายาเสพติดอยู่ หลังพยายามเจรจามาได้ระยะหนึ่ง ผู้ต้องหาเริ่มเรียกร้องอยากกินพิซซ่า จึงรับปากว่าจะหาให้และให้ลงมาด้านล่าง ก่อนจะใช้ปืนตาข่ายยิงเพื่อจับกุมตัว ทั้งนี้หลังพาตัวไปทำแผลตามร่างกายเสร็จแล้ว จะคุมตัวไปสอบสวนปากคำที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อตรวจหาสารเสพติด ซักถามรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด และเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้านนางสาวณัชชา แสงทองดี มารดาผู้ก่อเหตุระบุว่า ลูกชายมีก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเป็นช่างกลึง ขยันขั้นแข็ง เป็นคนดี ก่อนจะมาติดยาเสพติดได้ประมาณ 10 ปี และเริ่มมีอาการหลอนยา และคุ้มคลั่งหลายครั้ง ทำลายข้างของ แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายของพ่อแม่ มีแค่ครั้งนี้ที่ทำร้ายพ่อ คาดว่าจะหลอนว่าจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย

โดยตนเองก็อยากให้ลูกชายเข้ารับการบำบัดหลังจากนี้ ยอมรับว่าเสียใจที่ลูกทำแบบนี้

เบื้องต้นขณะนี้ตัวนายเอกชัย อยู่ระหว่างการตรวจโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเลิศสิน ห่อนจะรักษาบาดแผลตามร่างกายเล็กน้อย ก่อนจะคุมตัวกลับมาที่ สน.และแจ้งข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ และทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธ ส่วนเรื่องยาเสพติด ต้องรอผลการตรวจสารเสพติดหากพบก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดตามหลังอีกครั้ง ส่วนเรื่อสุขภาพจิต เท่าที่สอบถามมารดา ยังไม่พบว่าเข้าข่าย แต่ก็จะต้องนำาาอยสวนและสังเกตุอีกครั้ง เมื่อเสร็จสิ้นก็จะดำเนินการส่งศาลอาญาธนบุรี ในวันพฤหัสบดี ต่อไป

สำหรับปฏิบัติการไล่ล่าในครั้งนี้ใบ้เวลานานกว่า 15 ชั่วโมงรับตั้งแต่ก่อเหตุ และใช้เวลาปิดล้อมเจรจาและควบคุมตัวนานก่า 4 ชั่วโมง