ปคบ.ลุยจับไม่เลิกบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาฯ ขายผ่านทางออนไลน์

วันที่ 29 ต.ค.ตามคำสั่ง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ให้ทุกหน่วยในสังกัดระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและเป็นภัยสังคม โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และผบ.ตร


วานนี้(28 ต.ค.)ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เชษฐ์พันธ์ กิติเจริญศักดิ์ ผกก.1 บก.ปคบ.สั่งการชุดสืบสวนสอบสวนจับกุมการกระทำผิดทางสังคมออนไลน์

วันที่ 28 ต.ค. ชป.5 กก.1 บก.ปคบ. โดย พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ สว.กก.1 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ ชป.5 กก.1 บก.ปคบ.ตรวจสอบพบเฟซบุ๊กบัญชีชื่อ Marisa Melon มีการโพสต์ภาพประกาศเชิญชวนให้บุคคลทั่วไปสั่งซื้อผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟและน้ำยาบุหรี่ไฟทางออนไลน์ ได้วางแผนให้สายลับติดต่อล่อซื้อ ก่อนจะนัดส่งของกันที่กลางซอยลาดพร้าว 122 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.

ตามเวลาและสถานที่นัดหมายมีนายจัตุรงค์ จันทร์พวง อายุ 26 ปี มาพร้อมของกลางผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า รวม 4 รายการ มูลค่าประมาณ 100,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชป.5 ที่รออยู่แสดงตัวเข้าควบคุมตัวตรวจค้นและยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนแจ้งว่าการขายสินค้าดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า ผู้ใดขายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่ง พงส.กก.1 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเรื่องบุหรี่ไฟฟ้านี้ มีผู้แสดงความคิดเห็นเคลื่อนไหวจำนวนมากทั้งที่เห็นด้วยและเห็นต่าง เช่น

-นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส.กล่าวเมื่อ 14 ต.ค. หลังตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย ตัวแทนกลุ่ม ECST ผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า และแอดมินเพจเฟซบุ๊กมนุษย์ควัน เข้าพบ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหารือหารือแนวทางผลักดันบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นสินค้าที่จำหน่ายได้ตามกฎหมาย จะช่วยเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบมีช่องทางรายได้ใหม่จากการป้อนผลผลิตให้โรงงานผลิตบุหรี่ไฟฟ้า อีกทั้งปิดช่องภาษีรั่วไหลจากการลักลอบนำเข้า

-ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวเมื่อ 27 ต.ค.ว่า”องค์การอนามัยโลกรายงานการสำรวจการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กนักเรียนไทยในโรงเรียน อายุ 13-15 ปี2563 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจระดับโลก พบว่า อัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของนักเรียนไทยในเดือนก่อนการสำรวจ เท่ากับ 7.7% เพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อปี 2558 ที่อัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอยู่ที่ 3.5% เป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวภายในเวลา 5 ปี”
”ภายใต้นโยบายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน อัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของนักเรียนไทย และประชากรที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ยังเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และ 6 เท่าตามลำดับ ดังนั้นหากเปิดให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย ยิ่งมีความเสี่ยงที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่ายทั้งจากช่องทางที่ถูกและผิดกฎหมาย”

-นพ.จตุภัทร  คุณสงค์ จิตแพทย์ประจำศูนย์จิตรักษ์กรุงเทพ  โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ชนิดหนึ่งซึ่งใช้กลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำที่ประกอบไปด้วยสารเคมีต่างๆ โดยไม่มีควันจากกระบวนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ปกติทั่วไป
จากการวิจัยพบว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่นโรคหัวใจ เกิดการเปลี่ยนแปลงของ DNA ในเซลล์ปอด หัวใจ และกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
แน่นอนว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคติน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการเสพติด ดังนั้นการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจึงทำให้ผู้สูบ “ติด” ได้ไม่ต่างจากบุหรี่ธรรมดา นอกจากนี้รูปแบบ ขั้นตอนในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็มีความใกล้เคียงกับการสูบบุหรี่ธรรมดามาก ทำให้ผู้สูบยังคง “ติด” ในพฤติกรรมการสูบเหมือนบุหรี่ธรรมดา

-นายอาสา ศาลิคุปต และนายมาริษ กรัณยวัฒน์ เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ” แอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน เปิดเผยว่า ผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ทำงานด้านการวิจัยและพัฒนานโยบายเกี่ยวกับยาสูบกว่า 100 คน กำลังมีความกังวลเกี่ยวกับจุดยืนขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO ที่ยังคงมองข้ามศักยภาพของบุหรี่ไฟฟ้าในการช่วยให้ผู้สูบบุหรี่ลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ จึงได้ร่วมกันลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้ WHO สนับสนุนและรวมเอาหลักการลดอันตราย (Harm Reduction) เข้าไปไว้ในกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบด้วย