แก๊ง 2 ล้อ “น้ำไม่อาบ” ร่วมพันคัน มุ่งหน้าภูทับเบิก ตำรวจตั้งจุดกวดขันแต่ก็ยังเกิดเหตุจนได้

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ (6 พ.ย.) ได้มีรถจักรยานยนต์จำนวนมากเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สถานีตำรวจภูธรศรีเทพ ร่วมกับตำรวจทางหลวง ต้องทำการตั้งจุดสกัด เพื่อทำการตรวจสภาพรถและอุปกรณ์ส่วนควบ พร้อมกับกำชับกวดขันในการกระทำผิดวินัยจราจร ของผู้ขับขี่ เนื่องจากได้รับแจ้ง ผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 เพชรบูรณ์ เป็นจำนวนมากเกี่ยวกับการกระทำผิดของกลุ่มดังกล่าว


ต่อมาทราบว่า กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรายานยนต์กลุ่มดังกล่าว ได้เดินทางมุ่งหน้าไปยัง ภูทับเบิกแหล่งท่องเที่ยวดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยใช้เส้นทาง สระบุรี-หล่มสัก (ทางหลวงหมายเลข 21) โดยเรียกชื่อว่า ทริปน้ำไม่อาบ และมีการจัดเป็นประจำทุกปี มีผู้ร่วมทริปมาจากหลายเส้นทาง เส้นทางหลวงหมายเลข 21 เป็นเพียงเส้นทางหนึ่งเท่านั้น


ในระหว่างการตั้งจุดสกัดของ สถานีตำรวจภูธรศรีเทพ และตำรวจทางหลวง ได้มีรถจักรยานยนต์จำนวนมากใช้เส้นทางอื่นเพื่อหลบหลีก และมีบางส่วนนำรถจักรยานยนต์ ขึ้นบนรถยกเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผลการตรวจสอบผู้ขับขี่และรถจักรยานยนต์ดังกล่าว พบว่า รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และผู้ขับขี่เป็นเยาวชน ไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่ และรถไม่มีเอกสารคู่มือรถหรือสำเนา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการออกใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับตามกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวได้พบกับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการขับขี่ของกลุ่มดังกล่าว ในระหว่างเส้นทาง บริเวณหน้าร้านพุขามค้าไม้ ฝั่งขาขั้นก่อนเข้าตลาดพุเตย เป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า ยาริส สีดำ หมายเลขทะเบียน งด-4062 นครราชสีมา จอดอยู่ข้างทาง สอบถามเจ้าของรถ ได้แก่ นางสาวเอ๋ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เล่าว่า ตนเองอยู่ระหว่างขับขี่รถ ตามทางหลวงหมายเลข 21 เพื่อไปร่วมงานศพที่ จ.พิษณุโลก ระหว่างนั้นมีกลุ่มรถจักรยานยนต์ขับขี่ตามหลังมา และชนเข้ากับท้ายรถด้านขวา ยุบเป็นรอย หลังเกิดเหตุ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับขับหนีไป ไม่ยอมจอดลงมาดูหรือเจรจากับตนเองแต่ประการใด และรถทุกคันในขบวนดังกล่าว ส่วนใหญ่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เหมือนจะมีเจตนาปกปิดอะไรสักอย่าง ทำให้ตนเองเสียทั้งเงินและเวลา แบบไม่น่าจะเสีย ทั้งไม่รู้ว่าจะเดินทางไปร่วมงานศพทันหรือไม่