ตร.ภ.3 จับกุมเครือข่ายขบวนการดาวน์รถแลกเงิน ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน พบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 100 ล้านบาท

วันนี้ (10 พฤศจิกายน 2564)  ที่บริเวณด้านหน้า อาคารตำรวจภูธรภาค 3 ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 เป็นประธานแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายขบวนการดาวน์รถแลกเงิน ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นไปตามบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มอบนโยบาย มายัง พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 3 ปราบปรามจับกุมการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะเรื่องการนำรถไปขายยังประเทศ 

ในการนี้ พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา จึงสั่งการทุก สภ.ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ให้กวดขันปราบปรามจับกุมการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นประจำทุกเดือน โดยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 21.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนแสนสุข จ.นครราชสีมา ได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 6 คัน ที่ริมถนนท้ายหมู่บ้านปรางค์ครบุรี ต.ครบุรี จ.นครราชสีมา   ซึ่งทั้งหมดเป็นรถจักรยานยนต์ใหม่ ตรวจยึดไว้ทำการตรวจสอบ  และเบื้องต้นทราบว่า เป็นรถที่ถูกลำเลียงมาจาก จ.ชลบุรี

จากการสืบสวนขยายผล ร่วมกับ กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา สามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้เพิ่มเติมในพื้นที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ 4 คัน และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว 4 คัน รวม 14 คัน ซึ่งทั้งหมดเป็นรถที่กำลังลำเลียงจะนำไปส่งยังประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณชายแดน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเรื่อยมา จนกระทั่งนำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับ และล่าสุด เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา  สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 6 ราย ได้แก่

1.นายเสกสรรค์ พันธ์ดี อายุ 39 ปี 13 ม.5 ต.คลองดำหรุ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี (ตัวแทนนายทุนต่างชาติ)

2.น.ส.สรยา โต๊ะยีหวัง อายุ 34 ปี 29/2 ม.14 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา (นายหน้า)
3.น.ส.ลำไพร มั่นคง อายุ 45 ปี 344 ม.9 ต.บ้านฝาง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น (ผู้เช่าซื้อ)
4.น.ส.ศุภิสรา สอนเจริญ อายุ 26 ปี 178 ม.12 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว (ว่าจ้าง/จัดหาทีมขน)
5.นายสุทัศน์ สร้อยดั้น อายุ 18 ปี 178 ม.12 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว (หัวหน้าทีมขน)

6.นายพงศ์พัทธ์ ศรีมาตร อายุ 25 ปี 14 ม.8 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว (ทีมขน)


โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป , สมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป กระทำความผิดฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด อันเป็นความผิดฐานซ่องโจร, หรือร่วมกันรับของโจร”

ซึ่งพฤติการณ์ของผู้ต้องหา พบว่า ร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะของขบวนการดาวน์รถแลกเงิน ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน  มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยเริ่มจากนายทุนต่างชาติในประเทศเพื่อนบ้าน มีออร์เดอร์รถจักรยานยนต์ที่ต้องการ จะแจ้งยี่ห้อ/รุ่นของรถมาให้ จากนั้น ตัวแทนนายทุนต่างชาติ จะประกาศในสื่อสังคมออนไลน์ ในลักษณะรับซื้อ / ดาวน์รถจักรยานยนต์มาแลกเงิน ต่อมา จะมีกลุ่มนายหน้าติดต่อกับผู้ที่ต้องการเงินให้มาดาวน์รถฯ (เช่าซื้อ) เพื่อแลกเงิน จากนั้น  ผู้เช่าซื้อ จะนำรถฯ มาส่งมอบให้กับนายหน้าเพื่อแลกกับเงินที่ต้องการ แล้วนายหน้าจะรวบรวบรถไปส่งให้กับตัวแทนนายทุนต่างชาติ และนายทุนต่างชาติที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะสั่งการให้ทีมขน ดำเนินการนำรถที่รวบรวมมาได้ไปส่งมอบ ณ จุดนัดหมาย  เพื่อนำข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่อไป  ซึ่งแนวทางการสืบสวนเส้นทางการเงิน  พบว่า ขบวนดังกล่าว มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 100 ล้านบาท

จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังอย่าหลงผิดเป็นเหยื่อของขบวนการดังกล่าว โดยไปดาวน์รถให้ผู้อื่นเพื่อแลกกับเงินเพียงเล็กน้อย  แล้วมาแจ้งความว่ารถหายเพื่อเอาประกัน เพราะนอกจากจะถูกดำเนินคดี ในฐานะผู้ร่วมขบวนการในการกระทำความผิดแล้ว ยังจะถูกดำเนินคดี ข้อหาแจ้งความเท็จฯ อีกด้วย ส่วนบริษัทประกันภัยหรือผู้ให้บริการสินเชื่อ ลิสซิ่ง / ไฟแนนซ์ หากพบว่า ได้รับความ

เสียหายในลักษณะดังกล่าว  ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป