นักโทษเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 แหกคุกหนี 9 ราย มอบตัวแล้ว 2 ราย

นักโทษเรือนจำทหารเลื่อยลูกกรง หลบหนี 9 รายติดตามตัวแล้ว 2 ราย โดยใช้การตัดลูกกรงหนี ตำรวจเร่งตามตัว 7 คนที่ยังหลบหนี ยันไม่ใช่นักโทษการเมือง ตั้งค่าหัว 2 หมื่นเป็นรางวัลนำจับ


วันที่ 11 ธ.ค.2564 เวลา 02.30 น. พ.ต.ท.ธนิศร เอกรัตนณัฐ สารวัตร(สอบสวน)สภ.สามควายเผือก ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (มทบ.11) ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง นครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่เรือนจำพลเรือน แจ้งว่ามีผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ถูกแยกกักตัวตามมาตราป้องกันโรคโควิด19 หลบหนีไปจากเรือนนอนชาย(พลเรือน) จำนวน 9 คน

1.นายวัชระ นะโมมั่น อายุ 28 ปี ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
2.นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด
3.นายวีรเชษฐ์ เทพชู อายุ 28 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์
4.นายนัถกร มาตรวังแสง อายุ 24 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์
5.นายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง อายุ 36 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด
6.นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด
7.นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด
8.นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด
9.นายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด

จากการตรวจสอบผู้ต้องขัง 9 คน ดังกล่าวได้ใช้ใบเลื่อยตัดเหล็กทำการตัดซี่ลูกกรงเหล็กห้องขังเรือนนอน 1/5 แล้วหลบหนีไปออกจากเรือนจำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างการเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องขัง 9 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องขังหลบหนีจากที่คุมชังบริเวณ เรือนนอนผู้ต้องขังชาย(พอเรือน)ภายในเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (มทบ 11) หมู่ 3 ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง จ.นครปฐม จึงใด้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบที่ เกิดเหตุพบ บริเวณเหล็กกรงหน้าห้องคุมขังของผู้ที่พลบหนีนั้น ถูตัดไปจำนวน 1 ช่อง มีขนาด สูง 30 เขนติเมตร กว้าง
19 เซนดิเมตร และไต้พบ ไบเลื่อยตัดเหล็กถูกว่างทิ้งไว้ใกล้กับห้องน้ำในที่เกิดเหตุ ต่อมาที่บริเวณกำแพงรั้วของเรือนจำนั้นซึ่งมีลวดหนามตั้งอยู่ต้านบน ได้มีเสื้อผ้าของผู้ต้องขังจำนวนหลายชี้นวางคุกุมลวดหนามตังกล่าวไว้ คาดว่านำจะเป็นเส้นทางหลบหนีของผู้ต้องชังตังกล่าว

ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ควบคุนภายในเรือนจำแจ้งว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินผู้ต้องขังส่งเสียงดังจึงได้ขึ้นไปดูบริเวณที่เกิดเหตุ และพบว่าห้องขังนั้นถูกตัดไปจำนวน 1 ช่อง จึงได้ทำการตรวจสอบยอดผู้ห้องชังและพบว่าผู้ต้องขังได้หายไปจำนวน 9 คน ดามรายชื่อที่ปรากฏข้างตัน จึงได้เก็ยรวบรวมพยานหลักฐานไนที่เกิด
เหตุ เพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไปและติดตามตัวมาดำเนินการขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ผู้ต้องหาทั้ง 9คน เป็นนักโทษกลุ่มเสี่ยง
กักตัว ตามมาตรการป้องกัน covid-19
และผู้ต้องหาทั้ง9คน เป็นผู้ต้องหาของ- สภ.บางหลวง 3 คน- สภ.เมืองนครปฐม 2 คน – สภ.นครชัยศรี 2 คน – สภ.กำแพงแสน 1คน – สภ.บางเลน 1คน

ล่าสุดเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.บุญยฤทธิ์ รอดมา รองผบช.ภ.7 เดินทางมาเร่งประชุมกับชุดคลี่คลายคดีโดยด่วน ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.อ.นายนักรบ นาคพรหม ผู้บัญชาการเรือนจำฯ ชุดสืบสวนจังหวัดนครปฐม ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้สรุปการก่อเหตุเบื้องต้นทราบว่าในห้องขังดังกล่าวมีผู้ต้องขัง มี 90 คน และมี 9 ที่ได้ร่วมกันก่อเหตุ โดยช่วงสายที่ผ่านมา ได้มีการติดตามผู้ต้องหา 2 ที่ได้หลบหนีไปอยู่กับญาติที่บ้านพักในเขตอำเมืองนครปฐม และทางญาติได้นำเข้ามอบตัว ประกอบด้วย นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด และนายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด ในประเด็นเบื้องต้นมีกระแสว่าเป็นนักโทษคดีทางการเมืองยังไม่ปรากฏตามที่กระแสโซเชียลได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมทำการสอบสวนเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว โดยความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ในการติดตามนักโทษอีก 7 คนที่กำลังหลบหนีได้มีการตั้งชุดสืบจังหวัดยนครปฐม สืบในพื้นที่ที่ผู้ต้องหาหลบหนีกดดันไล่ล่าติดตามตัวเพื่อเร่งตามตัวมาให้ได้คาดว่าน่าจะได้ตัวอีกหลายรายในวันนี้ โดยมีการตั้งรางวัลนำจับ 2 หมื่นบาทต่อหัว