บช.ปส. ชี้แจงความคืบหน้าในการปลดกัญชา และกัญชง ออกจากยาเสพติดให้โทษในประเภท 5

ตามที่เป็นข่าวในสื่อต่างๆ ว่าได้มีการปลดกัญชากัญชงออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ แล้ว ประชาชนสามารถปลูก แปรรูป และใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัดนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนว่า การปลดพืชกัญชากัญชงออกจากยาเสพติดประเภท ๕ นั้น ยังไม่มีผลบังคับใช้ โดยในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕  เมื่อวันอังคารที่ ๒๕ ม.ค.๖๕ คณะกรรมการ ป.ป.ส. มีมติเห็นชอบ ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญ  “กำหนดให้ควบคุมเฉพาะสารสกัดจากทุกส่วนของกัญชาและกัญชงซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท๕ และให้ยกเว้นสารสกัดดังต่อไปนี้ (๑) สารสกัดที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๐.๒ โดยน้ำหนักเฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้ สกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชงที่ปลูกภายในประเทศ (๒) สารสกัดจากเมล็ดของพืชกัญชาหรือกัญชงที่ได้จากการปลูกภายในประเทศ 

สำหรับกรณียาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ รายการอื่น ได้แก่ พืชฝิ่น และเห็ดขี้ควายหรือพืชเห็ดขี้ควาย ให้กำหนดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามเดิม”  โดยประกาศฯ จะมีผลใช้บังคับเฉพาะในส่วนสารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง เมื่อพ้นกำหนด ๑๒๐ วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา  เพื่อรอกระบวนการออกกฎหมายควบคุมกัญชาและกัญชงให้มีผลใช้บังคับก่อน

ดังนั้น ในขณะนี้กฎหมายที่ควบคุมกัญชากัญชงอยู่เดิมยังมีผลใช้บังคับอยู่ ยังไม่สามารถปลูกหรือเสพกัญชากัญชงได้โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนการใช้ประโยชน์ในส่วนต่างๆ  ยังคงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิม จนกว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุขจะมีผลบังคับใช้ และมีการควบคุมเท่าที่จำเป็นตามร่างกฎหมายที่จะออกมาใหม่ ซึ่งเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๕ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. … ต่อสภาผู้แทนราษฎรไว้แล้ว