กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต. วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.๑ บก.ปทส., พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์, พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.๑ บก.ปทส.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์, พ.ต.ต.ธีรวัฒน์ ชูกรณ์, พ.ต.ต.ดนัย ดีดวงพันธ์ , พ.ต.ต.สรศักดิ์ สิทธิธีรกุล สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม ๑. นางสลัย (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี
สถานที่จับกุม บริเวณที่ดินย่าน ถนนพัฒนาชนบท 3 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2565 เวลาประมาณ 12.15 น. ๒. นาย ทวี (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี จับกุมตัวได้ที่ บริเวณที่ดินภายในซอยหวังพูนสิน ถนนพัฒนาชนบท 3 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2565 เวลาประมาณ 12.00 น. โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าผู้ต้องหาทั้งสองว่า “รับดำเนินกิจการกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535
พฤติการณ์ ตามที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้มอบนโยบายแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จึงได้มอบหมายให้ กก.1 บก.ปทส. ดำเนินการสืบสวน ปราบปรามผู้มีพฤติการณ์กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่กรุงเทพฯ
โดย กก.1 บก.ปทส. ได้ทำการตรวจสอบในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่ามีการร้องเรียนปัญหาการกำจัดขยะมูลฝอย ที่สร้างความเดือดร้อนส่งกลิ่นเหม็นรบกวน เป็นมลพิษทางอากาศในพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งเกิดจากการกำจัดขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกวิธี ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อม เช่น เป็นแหล่งอาหารและ เพาะพันธุ์แมลงนำโรค, ขยะมูลฝอยกระจัดกระจายมีสภาพที่ไม่น่าดู, มีก๊าซส่งกลิ่นเหม็น และเป็นแหล่งแพร่กระจายสิ่งสกปรกไปสู่แหล่งน้ำและพื้นดินใกล้เคียง กก.๑ บก.ปทส. จึงได้ “ปฏิบัติการ SHUT DOWN! บ่อขยะเถื่อนทั่วกรุง”
โดยเมื่อวันที่ 3 ก.พ.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ปฏิบัติการ SHUT DOWN! บ่อขยะเถื่อนทั่วกรุง ตรวจสอบพบว่า นางสลัยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ซึ่งเคยถูกจับกุมในความผิดในลักษณะนี้มาแล้ว แต่กลับมาก่อเหตุซ้ำ โดยย้ายที่ฝั่งกลบขยะมูลฝอยมายังบริเวณที่ดินย่านถนนพัฒนาชนบท 3 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้วจำนวน 4 ไร่ โดยพบว่ามีกองขยะมูลฝอย เศษวัสดุก่อสร้าง เศษหิน เศษดินเศษกิ่งไม้ มาถม (ฝังกลบ) ในที่ดิน
ท
ซึ่งจากการสอบถาม นางสลัยฯ ให้การยอมรับสารภาพว่าทำบ่อขยะมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยจะนำขยะมูลฝอยมาฝังกลบในที่ดินของเอกชน ซึ่งผู้ที่นำขยะ เศษไม้ เศษวัสดก่อสร้าง กิ่งไม้ ขยะอื่นๆ มาทิ้ง ได้จ่ายเงินให้กับนางสลัยฯ รวมประมาณแล้วยอดเก็บค่าขยะต่อคันรถค่ะ คันละ 40 บาท 60 บาท 100 บาท 200 บาท 300 บา ซึ่งหากขยะที่ทิ้งในที่ดินไม่สามารถคัดแยกไปขายได้ เช่น ต้นไม้ หรือ ขยะเน่าเสีย จะต้องเสียค่าทิ้งราคาแพงขึ้นอีก ส่วนขยะที่นำมาทิ้งในที่ดินสามารถคัดแยกนำไปขายได้ จะเสียค่าทิ้งในราคาถูกกว่า และหากที่ดินแปลงไหนนำขยะมูลฝอยมาถมเต็มแล้วผู้ต้องหาก็จะนำดินมาถมปิดขยะมูลฝอยด้านบน โดยเจ้าของที่ดินไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
นอกจากนี้ นางสลัยฯ ยังให้การเพิ่มเติมอีกว่า ตนเพิ่งย้ายที่ดินในการทำบ่อขยะมาจากจุดเดิมที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. จับกุมได้เพียงแค่ 3 วันเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นางสลัยฯ เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. จับกุมมาแล้ว 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.64 ที่บริเวณที่ดิน แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร และเมื่อวันที่ 24 ม.ค.65 ในที่ดินบริเวณถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ในข้อหา “รับดำเนินกิจการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับระโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535”
ในส่วนของผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่สามารถจับกุมได้ คือ นายทวี (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาว จ.ยโสธร ซึ่งทำบ่อขยะในที่ดินภายในซอยหวังพูนสิน ถนนพัฒนาชนบท 3 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ แต่พึ่งถมขยะได้แค่ 3 งาน
ซึ่งจากการสอบถาม นายทวีฯ รับว่าได้ดำเนินการในลักษณะเช่นนี้มาประมาณ 7 ปี เปลี่ยนสถานที่ไปหลายแห่ง แต่เมื่อประมาณต้นเดือน พ.ย.64 ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. จับกุมได้ที่บริเวณที่ดิน แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับ “ปฏิบัติการ SHUT DOWN! บ่อขยะเถื่อนทั่วกรุง” ของทาง บก.ปทส. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบการกระทำความผิดจำนวน 23 จุด ทั่วกรุงเทพมหานคร แบ่งเป็นพื้นที่ดังนี้ เขตมีนบุรี จำนวน 3 จุด, เขตสวนหลวง จำนวน 1 จุด, เขตลาดกระบัง จำนวน 2 จุด, เขตคลิ่งชัน จำนวน 1 จุด, เขตประเวศ 2 จุด, เขตคลองสามวา จำนวน 3 จุด, เขตสะพานสูง จำนวน 5 จุด, เขตหนองแขม จำนวน 2 จุด, เขตสายไหม จำนวน 1 จุด, เขตภาษีเจริญ จำนวน 1 จุด
ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปทส. จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรร หรือที่ดินตามพื้นที่ต่างๆ ขอให้ท่านตรวจสอบการก่อสร้างโครงการตั้งแต่เริ่มแรก โดยให้เดินทางมาดูการก่อสร้างในพื้นที่จริง ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อจะได้ไม่ถูกหลอกขายที่ิดินที่ไม่มีคุณภาพ หรือที่ดินที่ถูกนำมาเป็นบ่อขยะ ซึ่งที่ดินลักษณะนี้อาจจะก่อปัญหาดินทรุด และน้ำท่วมตามมาในภายหลังได้ ทั้งนี้ในส่วนของประชาชนท่านใดหากพบเห็นการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว ท่านสามารถเเจ้งเข้ามาได้ที่ บก.ปทส. หรือเพจเฟซบุ๊กตำรวจสอบสวนกลาง
