รวบคาร้านกาแฟ ชาย 41 ปี อ้างรู้จักผู้ช่วยต่อศักดิ์ กรรโชกทรัพย์ค่าจำนำรถ

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ปันไชย ผกก.1 บก.ปคม และตำรวจ กก.1 บก.ปคม นำกำลังจับกุม นายสราวุฒิ กีรติกรภัทร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/88 ซ.อ่อนนุช 17 แยก 16 แขวงและเขตสวนหลวง ในฐานความผิดกรรโชกทรัพย์ โดยจับกุมได้บริเวณร้านกาแฟชั้นล่างของศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท 54

สืบเนื่องจาก ชุดสืบสวนได้รับการร้องเรียนว่ามีบุคคลแอบอ้างว่ารู้จักกับทางพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้ช่วยผบ.ตร. ไปกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหายในหลายพื้นที่ เหตุเกิดเมื่อช่วงปี 2562 โดยมีการแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนสน.พระโขนง ซึ่งกรณีดังกล่าว ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ว่า ตนรู้จักกับนายสราวุฒิ ซึ่งได้อ้างตัวว่ารู้จักเป็นน้องของพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ภายหลังผู้เสียหายขาดสภาพคล่องทางการเงินจึงได้นำรถยนต์ยี่ห้อเล็กซัส หมายเลขทะเบียน ฏฐ885 กรุงเทพมหานคร มาจำนำไว้กับทางกลุ่มของนายสราวุฒิ เป็นเงิน 80,000 บาทโดยนำรถมาวางเป็นประกัน

ต่อมาผู้เสียหายไม่สามารถหาเงินมาไถ่ถอนได้ตามกำหนด นายสราวุฒิจึงได้ขายรถคันดังกล่าวให้กับผู้อื่น ภายหลังมีการติดตามรถคันดังกล่าวกลับคืนมาได้ แต่ทางนายสราวุฒิไม่ยอม อ้างว่าต้องนำเงินจำนวน 200,000 บาทไปให้กับผู้ครอบครองรถ จึงได้ติดตามทวงหนี้กับผู้เสียหายให้แจ้งชำระเงินจำนวนดังกล่าว ซึ่งผู้เสียหายแจ้งว่าได้ชำระเป็นเงิน 80,000 บาทแล้ว แต่นายสราวุฒิไม่ยอมและได้พูดจาข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย อีกทั้งยังอ้างว่ามีทีมอุ้ม ชื่อบังหมัดคลองตันเป็นลูกน้อง รวมถึงส่งตัวอย่างภาพข่าวที่มีการอุ้มโดยทีมงานของบังหมัดมาให้ผู้เสียหาย เพื่อให้เกิดความเกรงกลัว ทำให้ผู้เสียหายต้องยอมโอนเงินจำนวน 15,000 บาทและ 10,000 บาทให้กับผู้ต้องหา และได้มีการนัดส่งมอบเงินกันในจำนวน 50,000 บาท โดยนัดหมายกันที่ร้านกาแฟภายในศูนย์การค้าดังกล่าว

เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายสราวุฒิได้เดินทางมาตามนัด ก่อนที่ทางผู้เสียหายจะส่งมอบเงินให้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ซึ่งทันทีที่นายสราวุฒิเห็นเจ้าหน้าที่ก็มีท่าทีที่ตกใจพร้อมกับพูดว่ามาจับกุมด้วยเหตุอะไร เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปค้นรถยนต์ ซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณชั้นสามของอาคารจอดรถในศูนย์การค้าดังกล่าว

เบื้องต้นผู้ต้องยอมรับว่ารู้จักกับ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ โดยระบุว่าเป็นญาติพี่น้องกัน สามารถโทรศัพท์ต่อสายได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าตนมีความผิดอะไร และได้ชี้แจงเรื่องการนัดหมายมาจ่ายเงินว่า ผู้เสียหายเป็นคนนัด ซี่งเป็นการนัดหมายให้มาจ่ายหนี้จากการยืมเงิน ซึ่งโดนเลื่อนมาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานด้วยว่ามีการใช้สารเสพติด โดยจะมีการนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดและสอบสวนโดยละเอียดที่ บก.ปคม. ต่อไป