บช.น.เรียกญาติน้องแป้ง เข้าสอบปากคำ เห็นตรงกันวงจรปิดจับภาพกระโดดสะพานพระรามแปด น.1 เผย อาจเกิดจากใบพัดเรือ

เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ่อ แม่ สามี และ เพื่อน ของ น.ส.มณีรัตน์ กระจกภาพ อายุ 28 ปี ที่ถูกพบชิ้นส่วนร่างในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เพื่อให้ปากคำถึงสาเหตุการเสียชีวิต

นายอดิศร คุ้มโศก อายุ 26 ปี สามีผู้ตาย เปิดเผยว่าได้ดูคลิปกล้องวงจรปิดแล้ว และเชื่อว่าบุคคลในภาพคือภรรยาตัวเองจริง โดยเจอกับภรรยาครั้งสุดท้าย คือช่วงเช้าของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ก่อนตนออกไปทำงานในเวลา 07.30 น. โดยไม่ทราบว่าสวมใส่ชุดอะไรออกจากบ้าน เเต่จากการดูภาพกล้องวงจรปิดที่ปรากฎ มั่นใจว่าเป็นภรรยาอย่างเเน่นอน โดยที่ผ่านมายอมรับว่าภรรยาเคยพูดว่าจะทำร้ายตัวเอง เเต่ก็ไม่คิดว่าจะกระทำจริง อีกทั้งยังยิมรับว่าก่อนหน้านี้ ทั้งตนเเละภรรยาก็มีปัญหาด้านการเงิน รวมทั้งภรรยายังมีปัญหาด้านสุขภาพ พร้อมยืนยันว่าไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนกรณีที่ชิ้นส่วนของศพ มีการกระจัดกระจาย ตนเองไม่ทราบรายละเอียด

ขณะที่ น.ส.จี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของน้องเเป้ง เป็นคนสุดท้ายที่น้องเเป้งได้ไปพูดคุยก่อนจะหายตัวไปเดินทางเข้าให้ปากคำด้วย โดยบอกเพียงสั้น ๆ ว่า โดยยืนยันไม่ได้เข้าไปยืมเงิน อีกทั้งไม่เชื่อว่าน้องเเป้งจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ส่วนศพที่เจอ ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นน้องเเป้งตามหลักฐานที่ปรากฎ

ในขณะเดียวกัน ทางพ่อเเม่ของผู้เสียชีวิต ก็ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน โดยก่อนเข้าห้องสอบปากคำ ปรากฎว่าเเม่ของผู้เสียชีวิต มีอาการเป็นลม ล้มฟุบ ก่อนที่จะปฐมพยาบาล ซึ่งหลังจากอาการดีขึ้น ก็เข้าห้องสอบสวน โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เป็นผู้สอบปากคำด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พบชิ้นส่วนมนุษย์ ในส่วนข้อเท้าขวา ที่บริเวณกองเรือเล็ก สะพานอรุณอมรินทร์ ใกล้กับจุดที่พบลำตัวช่วงบนเมื่อวาน เเละในห้วงเวลาใกล้เคียงกัน เจ้าหน้าที่ก็พบชิ้นส่วนช่วงหน้าท้องถึงสะโพก ที่บริเวณท่าน้ำวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ วัดน้อยใน ระยะทางห่างจากจากสะพานอรุณอมรินทร์ ประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ชิ้นส่วนของมนุษย์ที่พบภายในคลองบางกอกน้อย ทั้งหมดรวม 6 จุด

ต่อมา พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. , พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น., พล.
ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7, พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมแถลงข่าวในกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวญาติ และ บุคคลใกล้ชิด มายืนยันภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ยืนยันตรงกับ น.ส.มณีรัตน์ จริง

พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบ้านพักของ น.ส.มณีรัตน์ ที่ซอยหทัยราษฎร์ 33 โดยออกจากบ้านเวลา 10.43 น. และเดินทางไปบ้านเพื่อนที่ ซอยหทัยราษฎร์ 25 ก่อนจะเรียกแกร๊บแท็กซี่ให้ไปส่งที่ด้านล่างสะพานพระรามแปด จากนั้นได้ไปซื้อน้ำดื่มที่ชุมชนบ้านปูน จากนั้นเดินขึ้นบนสะพานและกระโดดลงมาตามกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้ ในเวลา 12.13 น. ซึ่งทางตำรวจได้เรียกแท็กซี่มาสอบปากคำแล้วพบว่าตรงตามลักษณะของ น.ส.มณีรัตน์ ซึ่งให้การเป็นประโยชน์

พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยอีกว่า สภาพบาดแผลที่ปรากฎ ในเบื้องต้นระบุว่า เป็นบาดแผลที่เกิดหลังจากเสียชีวิต ส่วนจะเป็นของมีคมชนิดใด ต้องพิสูจน์อย่างละเอียด และอาจเกิดจากใบพัดเรือก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง และชิ้นส่วนที่พบล่าสุดในวันนี้ยืนยันแล้วว่าเป็นของ น.ส.มณีรัตน์ และจะทำการตรวจดีเอ็นเอกับญาติ โดยต้องรอผลสักระยะเพื่อสรุปสำนวน ทั้งนี้ในเหตุดังกล่าว ทางมารดาของผู้ตายยังติดใจในบางประเด็น คือ กระเป๋าสะพายที่ผู้ตายนำไปวางไว้บนสะพานก่อนกระโดดลงไป ภายในมีเอกสารระบุตัวตนเอาไว้ ถูกคนเอาไป จึงฝากประชาสัมพันธ์ หากผู้ใดนำไปให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อย

พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยอีกว่า หลังจากนี้จะต้องรอผลชันสูตรของแพทย์เพื่อระบุสาเหตุการตายว่า เกิดจากการจมน้ำหรือไม่อย่างไร ส่วนกรณีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ได้พิสูจน์ทราบและมีความเห็นตรงกันกับญาติรวมถึงหลักฐานที่ปรากฎว่าเกิดจากการทำร้ายตัวเองกระโดดน้ำเสียชีวิต ทั้งนี้หากญาติไม่ติดใจก็จะมอบร่างให้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.