เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.ณเอก เนตรจรัสแสง พ.ต.ท.รัชพล กิตติคุณชนก พ.ต.ท.สุทธิเดช โอฬาริ รอง ผกก.สส.บก.น.2 จับกุม นายแจ๊ค เยาวชนอายุ 16 ปี พร้อมพวกรวม 4 คน บริเวณ กม.ที่ 239 ถนน สระบุรี – หล่มสัก ฝั่งขาเข้า กรุงเทพมหานคร ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยของกลางกัญชาอัดแท่ง น้ำหนักรวม 1,056 กิโลกรัมรถยนต์ จำนวน 2 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถ จำนวน 4 แผ่น
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายแจ๊ค ไม่ทราบชื่อจริงและไม่ทราบนามสกุลจริง ได้ร่วมกับพวกซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดและมีจำนวนเท่าใด ใช้รถยนต์แบบตู้นั่งสี่ตอน ยี่ห้อฮุนได เฮช 1 สีเทา, รถยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นเซียส สีขาว และรถยนต์ซึ่งยังไม่ทราบยี่ห้อและรุ่นอีกหลายคัน ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาซุกซ่อนในพื้นที่เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้า ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียงตามคำสั่งของนายทุนหรือผู้ว่าจ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ สืบสวนจนพบว่านายแจ๊ค กับพวก มีที่พักอาศัยอยู่ที่เคหะออเงิน แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมานคร และทำการติดตามพฤติกรรมจนทราบว่าได้ทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจริง ต่อมาถึงวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา นายแจ๊คกับพวกก็ได้มีการขับรถออกจากกรุงเทพมหานครไปยังจ.นครพนม จนกระทั่งวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ขับรถกลับเข้ากรุงเทพมหานคร และได้จอดที่ปั๊มน้ำมันพีที สาขา โนนทอง ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม แต่รถยนต์ฮุนได เฮช 1 ได้หนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะมาถูกจับกุมบริเวณ กม.ที่ 239 ถนน สระบุรี – หล่มสัก ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบพบของกลางเป็นกัญชาอัดแท่ง จำนวน 24 กระสอบ น้ำหนักรวม 1,056 กิโลกรัม อยู่ภายในรถยนต์ตู้ ยี่ห้อฮุนได รุ่นเฮช 1 ซึ่งได้มีการดัดแปลงสภาพโดยได้นำเบาะโดยสารออกทั้งหมดเพื่อใช้ในการลำเลียงยาเสพติด จากการสอบสวนเคยมีประวัติก่อเหตุในพื้นที่สน.คันนายาว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาแท่ง) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวนบช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนอีกคดี พล.ต.ต.พลฑิต ไชยรส ผบก.น.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา รองผบก.น.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สส.บก.น.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนบก.น.3 และชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.3 จับกุมตัวนางสาวนฤมลหรือสาว อายุ 30 ปีนายศสิกรหรือแบงค์ อายุ 28 ปี และนายธวัชชัยหรืออ๊อฟ อายุ 33 ปี ที่อาคารจอดรถที่ 6 ชั้น 2A คอนโดลุมพินีรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม และคีตามีน น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 23 ก.พ.เวลาประมาณ 20.45 น. ที่ผ่านมา
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ขยายผลและสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสามได้ลักลอบขนและจำหน่ายแพร่กระจายยาเสพติด โดยขยายผลจากยาบ้า 4,000 เม็ด เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา จะนำยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่คอนโดลุมพินีรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยจะใช้รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีทอง คันหมายเลขทะเบียน 1ขท-7264 กรุงเทพมหานคร,รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีเทา คันหมายเลขทะเบียน 1ขธ-3641 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา ทะเบียน กฉ-7275 ภูเก็ต เป็นยานพาหนะในการขนส่งยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้เฝ้าสังเกตเพื่อทำการจับกุม และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามพร้อมของกลางยาไอซ์และเคตามีนได้ในเวลาต่อมา เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน)ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
