ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปอศ.รวบหนุ่มมหาภัย หลอกลงทุนขายอาหารเสริม หนีคดีไปบวชเป็นพระ

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ปุณณวิช อรรคนันท์ รองผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ภาณุพงษ์ กะระกล รอง ผกก.4 บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.ชณิตพงศ์ ศิริเวช สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ต.หญิง สุจิตรา ทองสกุล สว.กก.4 บก.ปอศ., ร.ต.ต.พรเทพ ธีระชาติ รอง สว.(ป) กก.4 บก.ปอศ., ด.ต.บพิตร ทองอนันต์ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปอศ., ด.ต.พีระพงษ์ เพ็ชรฉกรรจ์ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปอศ., จ.ส.ต.อานัฐ อาสนา ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายธนัญชกรฯ หรือพระพัชรวัฒน์ ธนสิริภัทรโกสิน อายุ 33 ปี ทั้งในฐานะส่วนตัว และในฐานะนิติบุคคล ตามหมายจับศาลอาญาที่ 425/2565 และ 426/2565 ลงวันที่ 7 มีนาคม 2565 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน”

สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 2 ตำบลหนองปรือ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี

พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ผู้เสียหายกับพวกได้เข้าไปในไลน์กลุ่มของ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งในกลุ่มนั้นได้มีการโฆษณาขายสินค้าพร้อมกับแพคเก็จการลงทุน โดยให้ข้อมูลว่าบริษัทฯมีการจัดรายการส่งเสริมการขายสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ และคืนกำไรให้กับสมาชิกเป็นเงินปันผล ซึ่งมีสินค้าจำนวนจำกัดเพียง 5,000 กล่อง หรือ 5,000 รหัสแพคเกจ โดยสินค้าจะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กล่องสีฟ้า บรรจุจำนวน 10 ซอง ราคา 3,500 บาท มีคุณสมบัติชะลอความชรา, ลดสิว ฝ้า กระ, ทำให้ผิวขาวอมชมพู และช่วยในการลดน้ำหนัก ในช่วงแรกมีข้อความเชิญชวนว่า “ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สมัครสมาชิก 4,700 บาท ได้รับเงินปันผลทุกรอบ 5 วัน ครั้งละ 2,200 บาท จำนวน 3 ครั้ง รวมรับ 6,600 บาท ใน 15 วัน พร้อมอาหารเสริม 1 กล่องราคา 3,500 บาท” โดยขั้นตอนคือแจ้งชื่อและจำนวนแพคเกจที่ต้องการสมัคร จากนั้นโอนเงินค่าสมัครพร้อมหลักฐานการโอน เข้าไปในไลน์กลุ่มโดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยจัดเก็บข้อมูลและแจ้งรายละเอียดให้กับสมาชิกทราบ

ต่อมาเมื่อประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ถึงประมาณต้นเดือน มีนาคม 2559 บริษัทเอกชนดังกล่าวได้หยุดการจ่ายผลตอบแทนไป ซึ่งทำให้ผู้กล่าวหาและพวก รวม 35 คนเชื่อว่าถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน คิดเป็นความเสียหายรวมเป็นเงินจำนวน 2,519,200 บาท จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ ให้ดำเนินคดีกับบริษัทฯ และกลุ่มบุคคลที่ร่วมกระบวนการจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ต่อมาในวันที่ 17 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปบวชเป็นพระ ที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวจริง จึงได้ทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การจำเลยเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

เตือนภัย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนภัย ให้ประชาชนทุกท่านพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน ข้อสังเกตุของการลงทุนที่อาจเป็นการฉ้อโกงประชาชนที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ คือ การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนมูลค่าสูง ในระยะเวลาอันสั้น อันเป็นพฤติกรรมที่มิจฉาชีพมักเลือกใช้ในการหลอกให้ลงทุน