นครบาลล้อมจับ ผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ รัวยิงหนุ่มพนักงานบริษัททำความสะอาดดับ

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร กรณี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ ใช้อาวุธปืนยิงนายทศพรฯ จำนวนหลายนัดจนถึงแก่ความตาย


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565เวลาประมาณ 01.15 นาที ในเขตพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตในบ้านบริเวณซอยวิภาวดีรังสิต 25 และได้สืบทราบว่าคนร้ายผู้ก่อเหตุชื่อนายวรชิตฯ อายุ 28 ปี ได้หลบหนีการจับกุมไปในเขตพื้นที่ อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอเรียนให้ทราบว่าคดีดังกล่าว พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พร้อมด้วย ผบก.น.2 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้นำกำลังติดตามไปโดยเข้าปิดล้อมเพื่อทำการจับกุมคนร้าย ที่บ้านพักของคนร้าย ในซอยพหลโยธิน 62 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี และได้พยายามที่จะเจรจา เกลี้ยกล่อมให้คนร้ายมอบตัว แต่คนร้านนั้นไม่ยอมมอบตัว กลับใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 ครั้ง จำนวนหลายนัด จากพฤติการณ์ของคนร้ายดังกล่าว เกรงว่าอาจจะทำให้เกิดอันตรายทั้งในส่วนของพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน จึงได้นำกำลังเข้าทำการจู่โจมเพื่อทำการจับกุม แต่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปทำการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวจึงใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัว เพื่อยับยั้งเหตุ กระสุนถูกคนร้ายที่บริเวณแขนซ้ายและใบหูซ้ายได้รับบาดเจ็บ และสามารถจับกุมคนร้ายได้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด


จากนั้นได้นำตัวคนร้ายไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยได้ทำการตรวจสอบสารเสพติดและสภาพจิตของคนร้าย สำหรับผลตรวจพิสูจน์เป็นประการใดก็จะรวบรวมไว้ในการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป ในเบื้องต้นนั้นพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เตรียมที่จะแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” สำหรับในส่วนของพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เตรียมจะแจ้งข้อหา “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน” และ “ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่”


พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้น การป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดีและหากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่เพื่อดำเนินการต่อไป