พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พร้อมผู้แทน UNHCR และ ฮิวแมนไรท์วอทช์ ลงพื้นที่ จ.สตูลหารือและช่วยเหลือแก้ปัญหาชาวโรฮีนจา

จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตาออกลาดตระเวนพบชาวโรฮีนจา จำนวน 59 คน ที่บริเวณเกาะดง (ห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณ 20 กม.) ซึ่งถูกนายหน้าลักลอบพาเข้ามายังประเทศไทยแล้วนำทิ้งไว้บนเกาะดง โดยหลอกลวงว่าได้เดินทางมาถึงประเทศมาเลเซียแล้ว มีสภาพอดข้าวอดน้ำอยู่ที่บริเวณดังกล่าวมาไม่ต่ำกว่า 5-7 วัน ซึ่งขณะนี้ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย ตามที่สื่อมวลชนและสื่อโซเชียลนำเสนอแล้ว นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 12.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วย Ms.Nivene Albert ผู้แทนจาก UNHCR และ Mr. Phil Robertson ผู้แทนจากฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) และคณะเดินทาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดสตูลเพื่อตรวจสอบติดตามความคืบหน้า ที่บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 436 จ.สตูล ซึ่งได้จัดให้เป็นที่พักชั่วคราวของชาวโรฮีนจากลุ่มนี้

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ได้พาคณะผู้แทนจากหน่วยต่างๆ เข้าไปสังเกตการณ์ในภาพรวมเกี่ยวกับการดูแลความเป็นอยู่ และที่พักของชาวโรฮีนจา โดยทางคณะผู้แทนฯ เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือร่วมกับทางการไทยดำเนินการให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน และเข้าประชุมรับฟังบรรยายสรุป ความคืบหน้าคดีในการสืบสวนสอบสวนติดตามผู้กระทำผิด และขบวนการนำพาชาวโรฮีนจามาปล่อยทิ้งไว้

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า ชาวโรฮีนจากลุ่มนี้ ได้ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้จริง ซึ่งมีการประสานกับตำรวจน้ำและ ศรชล.ของกองทัพเรือ ให้เข้าช่วยเหลือชาวโรฮีนจาทั้งหมดขึ้นฝั่ง เพื่อให้มีการช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์หรือไม่ และในวันนี้ได้พาคณะจากผู้แทน UNHCR และฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) มาติดตามดูแลสภาพความเป็นอยู่ของชาวโรฮีนจา และปรึกษาหารือกันว่า จะจัดส่งชาวโรฮีนจาไปประเทศที่ 3 อย่างไร และจะมีการประสานงานกับ ผบ.ตร.มาเลเซีย ขอความร่วมมือในการติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับของเอเย่นชาวมาเลเซียทั้ง 5 คน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ ผบก.ภ.จว.สตูล ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา โดยการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคดีค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่สำคัญ หลังจากดำเนินการคัดแยกเหยื่อแล้ว ผลปรากฏว่าไม่พบผู้ใดเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสอบปากคำพยานเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดนำชาวโรฮีนจากลุ่มนี้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนบุคคลที่มีบัตร UNHCR จะส่งต่อไปยังองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อรับตัวไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่เหลือจะส่งต่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามระเบียบและกฎหมายไทยต่อไป ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาคนเข้าราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.humantrafficking.police.go.th หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/TICAC2016 หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน

จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตาออกลาดตระเวนพบชาวโรฮีนจา จำนวน 59 คน ที่บริเวณเกาะดง (ห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณ 20 กม.) ซึ่งถูกนายหน้าลักลอบพาเข้ามายังประเทศไทยแล้วนำทิ้งไว้บนเกาะดง โดยหลอกลวงว่าได้เดินทางมาถึงประเทศมาเลเซียแล้ว มีสภาพอดข้าวอดน้ำอยู่ที่บริเวณดังกล่าวมาไม่ต่ำกว่า 5-7 วัน ซึ่งขณะนี้ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย ตามที่สื่อมวลชนและสื่อโซเชียลนำเสนอแล้ว นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 12.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วย Ms.Nivene Albert ผู้แทนจาก UNHCR และ Mr. Phil Robertson ผู้แทนจากฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) และคณะเดินทาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดสตูลเพื่อตรวจสอบติดตามความคืบหน้า ที่บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 436 จ.สตูล ซึ่งได้จัดให้เป็นที่พักชั่วคราวของชาวโรฮีนจากลุ่มนี้

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ได้พาคณะผู้แทนจากหน่วยต่างๆ เข้าไปสังเกตการณ์ในภาพรวมเกี่ยวกับการดูแลความเป็นอยู่ และที่พักของชาวโรฮีนจา โดยทางคณะผู้แทนฯ เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือร่วมกับทางการไทยดำเนินการให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน และเข้าประชุมรับฟังบรรยายสรุป ความคืบหน้าคดีในการสืบสวนสอบสวนติดตามผู้กระทำผิด และขบวนการนำพาชาวโรฮีนจามาปล่อยทิ้งไว้

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า ชาวโรฮีนจากลุ่มนี้ ได้ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้จริง ซึ่งมีการประสานกับตำรวจน้ำและ ศรชล.ของกองทัพเรือ ให้เข้าช่วยเหลือชาวโรฮีนจาทั้งหมดขึ้นฝั่ง เพื่อให้มีการช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์หรือไม่ และในวันนี้ได้พาคณะจากผู้แทน UNHCR และฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) มาติดตามดูแลสภาพความเป็นอยู่ของชาวโรฮีนจา และปรึกษาหารือกันว่า จะจัดส่งชาวโรฮีนจาไปประเทศที่ 3 อย่างไร และจะมีการประสานงานกับ ผบ.ตร.มาเลเซีย ขอความร่วมมือในการติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับของเอเย่นชาวมาเลเซียทั้ง 5 คน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ ผบก.ภ.จว.สตูล ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา โดยการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคดีค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่สำคัญ หลังจากดำเนินการคัดแยกเหยื่อแล้ว ผลปรากฏว่าไม่พบผู้ใดเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสอบปากคำพยานเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดนำชาวโรฮีนจากลุ่มนี้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนบุคคลที่มีบัตร UNHCR จะส่งต่อไปยังองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อรับตัวไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่เหลือจะส่งต่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามระเบียบและกฎหมายไทยต่อไป ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาคนเข้าราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.humantrafficking.police.go.th หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/TICAC2016 หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน

จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตาออกลาดตระเวนพบชาวโรฮีนจา จำนวน 59 คน ที่บริเวณเกาะดง (ห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณ 20 กม.) ซึ่งถูกนายหน้าลักลอบพาเข้ามายังประเทศไทยแล้วนำทิ้งไว้บนเกาะดง โดยหลอกลวงว่าได้เดินทางมาถึงประเทศมาเลเซียแล้ว มีสภาพอดข้าวอดน้ำอยู่ที่บริเวณดังกล่าวมาไม่ต่ำกว่า 5-7 วัน ซึ่งขณะนี้ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย ตามที่สื่อมวลชนและสื่อโซเชียลนำเสนอแล้ว นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 12.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วย Ms.Nivene Albert ผู้แทนจาก UNHCR และ Mr. Phil Robertson ผู้แทนจากฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) และคณะเดินทาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดสตูลเพื่อตรวจสอบติดตามความคืบหน้า ที่บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 436 จ.สตูล ซึ่งได้จัดให้เป็นที่พักชั่วคราวของชาวโรฮีนจากลุ่มนี้

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ได้พาคณะผู้แทนจากหน่วยต่างๆ เข้าไปสังเกตการณ์ในภาพรวมเกี่ยวกับการดูแลความเป็นอยู่ และที่พักของชาวโรฮีนจา โดยทางคณะผู้แทนฯ เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือร่วมกับทางการไทยดำเนินการให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน และเข้าประชุมรับฟังบรรยายสรุป ความคืบหน้าคดีในการสืบสวนสอบสวนติดตามผู้กระทำผิด และขบวนการนำพาชาวโรฮีนจามาปล่อยทิ้งไว้

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า ชาวโรฮีนจากลุ่มนี้ ได้ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้จริง ซึ่งมีการประสานกับตำรวจน้ำและ ศรชล.ของกองทัพเรือ ให้เข้าช่วยเหลือชาวโรฮีนจาทั้งหมดขึ้นฝั่ง เพื่อให้มีการช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์หรือไม่ และในวันนี้ได้พาคณะจากผู้แทน UNHCR และฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) มาติดตามดูแลสภาพความเป็นอยู่ของชาวโรฮีนจา และปรึกษาหารือกันว่า จะจัดส่งชาวโรฮีนจาไปประเทศที่ 3 อย่างไร และจะมีการประสานงานกับ ผบ.ตร.มาเลเซีย ขอความร่วมมือในการติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับของเอเย่นชาวมาเลเซียทั้ง 5 คน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ ผบก.ภ.จว.สตูล ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา โดยการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคดีค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่สำคัญ หลังจากดำเนินการคัดแยกเหยื่อแล้ว ผลปรากฏว่าไม่พบผู้ใดเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสอบปากคำพยานเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดนำชาวโรฮีนจากลุ่มนี้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนบุคคลที่มีบัตร UNHCR จะส่งต่อไปยังองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อรับตัวไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่เหลือจะส่งต่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามระเบียบและกฎหมายไทยต่อไป ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาคนเข้าราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.humantrafficking.police.go.th หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/TICAC2016 หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QRCODE  เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป