ผบ.ตร. นำแถลงระเบิดป่วนกรุงพบ 2 ผู้ต้องหาเคยร่วมก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดรอบพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อเนื่อง จ.นนทบุรี รวมทั้งหมด 5 จุด 9 ลูก และเหตุเพลิงไหม้อีก 7 จุด ในตลาดย่านประตูน้ำและศูนย์การค้าย่านสยามสแควร์ ห้วงวันที่ 1-2 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วหลายรายนั้น

เมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 8 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พร้อมคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีบึ้มป่วนกรุงฯ ประกอบด้วย พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร.,พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จตช.,พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผช.ผบ.ตร.,พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.,พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก.,พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค.,พล.ต.ท.พนมพร อิทธิประเสริฐ ผบช.สพฐ.,พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.,พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบช.สพฐ.และ พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผบก.สปพ. ร่วมแถลงความคืบหน้าของคดี หลังวานนี้(7 สิ.ค.) ผบ.ตร.ได้ไปร่วมสอบปากคำนายลูไอ แซแง อายุ 22 ปี และ นายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี สองผู้ต้องสงสัยที่นำระเบิดมาวางใต้ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนถูกจับกุมได้ที่ จ.ชุมพร และนำไปควบคุมตัวที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศปก.ตร.สน.จังหวัดยะลา

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันทุกวันไม่มีวันหยุด นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ทางผู้สื่อข่าวก็ติดตามข่าวกับทางเราทุกวัน และพยายามไซโค ว่า ผบ.ตร.และทีมงานไม่ให้ข่าวอะไรเลย อยากจะบอกว่าการทำงานเรื่องระเบิดไม่ใช่เรื่องง่ายๆต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวน ถึงแม้จะสามารถควบคุมตัวผู้ต้องไว้ใด้ 2 คน ภายในระยะเวลา 10 ชั่วโมง แต่วิธีการในการควบคุมตัว วิธีการในการซักถามต่างๆ เพื่อจะได้รู้โครงสร้างทั้งหมดไม่ใช่เรื่องง่าย บางสื่อบอกว่าตนไม่กล้าเจอนักข่าว บางสื่อก็ว่าเวลาตอบคำถามก็ตอบมุบๆมิบๆ ตนรู้หมดแต่ตนไม่ตอบเอง เพราะยังไม่ถึงเวลา ตนรู้ว่าสื่อบางคนสนิทกับทีมงานของตน แต่ก็ไม่เคยตำหนิใคร รู้ทั้งรู้ว่ามีการแอบส่งข่าวกัน แต่ผลเสียหายที่ตามมาก็คือ ทำให้คนร้ายที่เหลือขยับตัว จึงอยากถามว่าใครจะรับผิดชอบ คดีอย่างนี้ไม่ใช่คดีล้อ คดีเล่น การดำเนินการทุกอย่างต้องรอบคอบรัดกุมที่สุด หากไม่ได้ตัวผู้ต้องหาสื่อบางฉบับก็ตามกระแนะกระแหนไม่สามารถจับได้ รัฐบาลไม่เสถียร ตนอยากขอให้เข้าใจในการทำงาน ว่า คดีอย่างนี้ไม่ได้ง่าย ตนอยากจะให้ข่าวใจจะขาด แต่ถ้าถามกันทุกวัน ให้ข่าวกันทุกวัน คนร้ายไม่ได้โง่ เพราะเขาก็ติดตามข่าวสารจากสื่อทั้งนั้น ที่ผ่านมาไม่ทราบว่าพวกท่านไปชี้นำเข้าหรือเปล่า ที่พูดมาไม่ได้น้อยใจแค่รำพึงรำพันให้พวกท่านฟัง เพราะคดีอย่างนี้เป็นคดีบ้านคดีเมือง ตั้งแต่ปี 2544 เกิดเหตุระเบิดเครื่องบิน ในสมัยท่านทักษิณ ขินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตนมีข้อมูลทั้งหมด เพราะอยู่ในเหตุการณ์ทั้งนั้น ดังนั้นต้องเห็นใจคนทำงาน ต้องให้เวลา ที่ผ่านมาไม่เคยมีคดีเหตุระเบิดคดีไหน ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ภายใน 10 ชั่วโมง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจที่อยู่ตรงนี้ยังประชุมบริการตร.อยู่เลย คนร้ายเอาของมาทิ้งหน้าบ้านตน 2 ลูก ยอมรับว่าตนเป็นคนออกข่าวว่าเป็นของปลอม สำหรับวันนี้ที่จะให้มีการซักถามกับทางทีมงานสืบสวนสอบสวน จะตอบในส่วนที่ตอบได้ ส่วนไหนที่ตอบไม่ได้ก็ต้องขออนุญาตสงวนไว้ เพราะจะเป็นผลต่อทางคดี ต่อการที่ต้องไปขึ้นศาล ตนเชื่อว่าวันนี้ไม่ใช่มีแค่พวกท่านที่รอฟังอยู่ คนที่วางระเบิดก็รอฟังอยู่เหมือนกัน เราควบคุมผู้ต้องหาได้ในวันที่ 2 ส.ค.วันที่ 3 วันที่ 4 ผู้ก่อเหตุที่เหลือมีการขยับตัวแล้ว จึงเป็นสาเหตุที่ไม่อยากให้ข่าวพวกท่าน เพราะทำให้ทำงานยากขึ้น แผนประทุษกรรมต่างๆของกลุ่มคนร้าย บอกได้เลยไม่เหมือนกับโจรไทย อย่างเช่นกรณี เมื่อปี 2546 ปี 2547 มีเหตุเผาโรงเรียนทางจังหวักภาคใต้ 22 โรงเรียนพร้อมกัน ถ้าการสืบสวนสอบสวนเป็นแบบงานง่ายแบบเรา คิดว่าถ้าจับผู้ต้องหาได้สักคน คดีที่เหลือต้องออกหมด แต่ในความเป็นจริงคดีทางภาคใต้ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะแต่ละคนรับงานมารู้แค่หน้างานของตนเอง ในส่วนหน้างานของคนอื่นไม่มีใครรู้ ดังนั้นเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนก็เชื่อว่าเหมือนกัน คนร้ายแต่ละคนรู้แค่หน้าที่ของตัวเอง และแต่ละคนไม่รู้จักกัน พวกท่านก็ได้แต่รู้ว่าเมื่อไหร่ผบ.ตร.จะแถลง เมื่อผบ.ตร.ไม่แถลง พวกท่านก็ไปลงที่รัฐบาล ไปลงกับท่านนายกฯ ไปลงกับพล.อ.ประวิตร จึงอยากยกตัวอย่างแบนี้แล้วกัน “สงบจบที่ลูกตู่” อยากจะย้อนถามว่า สงบ คืออะไร สงบ คือ ไม่มีม็อบขนาดใหญ่ ที่ผ่านมา 5 ปี เราไม่เคยมีการชุมนุมขนาดใหญ่ เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดเหตุขึ้นใหม่ มีการพูดว่ารัฐบาลทำเองหรือไม่ จึงอยากย้อนถามว่าทำอย่างไร จะดิสเครดิตตัวเองหรือ มันก็ไม่ใช่ หรือกรณีผบ.ทบ.ออกมาพูดว่า กลุ่มคนก่อเหตุก็หน้าเดิมๆ บอกเลยว่า ท่านพูดไม่ผิด เพราะท่านรู้ ท่านอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ท่านรู้กลุ่มไหนเป็นกลุ่มไหน คิดอะไรอย่างไร บางครั้งต้องให้ความเสมอภาคในการเสนอข่าว เพราะพวกท่านทำให้ประชาชนเชื่อ หากถามตนว่าคนหน้าเดิมมีหรือไม่ในกรณีนี้ ตนบอกเลยว่ามี ผสมกันทั้งคนหน้าเดิม คนหน้าใหม่ หรือที่ทางภาคใต้เรียกว่า คนหน้าขาว คือ คนที่ไม่มีอะไร ยังไม่มีคดีติดตัว ที่พูดทั้งหมดไม่ได้ใช้อารมณ์ เพราะตนไม่พูดมา 7 วัน ทำงานอย่างเดียว วันที่ 9 ส.ค.ตนก็ต้องลงไปในพื้นที่อีกแล้ว คดีระเบิดเป็นคดีที่จับผู้ต้องหาได้ยากที่สุด แต่สิ่งที่ต้องการ คือ อะไรคือวาเหตุที่มาวางระเบิดในครั้งนี้ พวกท่านทราบหรือไม่ว่า ในรูปที่คนร้ายสะพายเป้หลังตุงๆ ทราบหรือไม่ว่าในนั้นมีอะไร ใครตอบถูกตนจะให้รางวัล แล้วตนจะเฉลยที่หลังว่าในเป้มีอะไร เพราะทุกคนมีเป้สะพายหลังกันทุกคน

 

ด้าน พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีวางระเบิดในหลายจุดในพื้นที่ กทม. กล่าวว่า ตนขอนุญาตชี้แจงในรายละเอียด ในฐานะตัวแทนของทีมงานสืบสวนสอบสวน โดยขอย้ำว่า ข้อมูลที่ตอบ จะตอบเท่าที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสืบสวนสอบสวน และไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องความรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจ คดีนี้สืบเนื่องจากวันที่ 1- 2 สิงหาคม เกิดเหตุพบระเบิดแสวงเครื่องและเกิดเหตุระเบิดรวมถึงเหตุไฟไหม้ขึ้นหลายจุดในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล เดยโซนที่เกิดเหตุ มีที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และที่ห้างสรรพสินค้าในย่านสยาม ปทุมวัน ประตูน้ำ โซนต่อมาบริเวณตึกมหานคร อีกโซนบริเวณศูนย์ราชการ และบริเวณสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถ้าเราดูจากเหตุการณ์จะเห็นว่ามีอุปกรณ์ 2 ประเภทที่ใช้ในการก่อเหตุ ประเภทแรกคือ ระเบิด อีกประเภทคือ อุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้

พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุเราก็ได้เริ่มปฏิบัติงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายความมั่นคงทุกส่วนราชการ ซึ่งก็ทำในกรอบหน้าที่และข้อมูลที่ทุกหน่วยมีอยู่ ในส่วนของคณะทำการสืบสวนสอบสวน ทางผบ.ตร.ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งทีมงานและก็เริ่มทำงาน จากการสืบสวนสอบสวนมาโดยตลอดจนถึงวันนี้ ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วย ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เราก็ได้ขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย คือ นายลูไอ แซแง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/6 หมู่ 4 ต.รืเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และ นายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 2 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ในข้อหา 1.อั้งยี่ซ่องโจร 2.มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง 3.พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 รายนี้ไว้ได้ตั้งแต่คืนวันที่ 1 ต่อเนื่องวันที่ 2 โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งในขณะนี้อยู่ในความดูแลของตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งหลังจากนี้เราก็จะดำเนินไปตามกฎหมาย ป.วิอาญา

“ในเรื่องของการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหารายอื่นๆ มีข้อมูลรั่วไหลออกไปจำนวนมากเป็นภาพต่างๆตามที่ ผบ.ตร.ได้พูดถึงแล้ว ตนคงไม่โฟกัสไปที่คดีใดคดีหนึ่ง แต่อยากอธิบายว่าเรื่องแบบนี้ถ้าเราแบ่งกลุ่มคนออกมาเป็น 3 ถึง 4 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ก็อาจจะเป็นบนสุดของห่วงโซ่หรือเรียกว่า Master Mind หรือผู้กำหนดยุทธศาสตร์ กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่ วางแผน สั่งการ กำหนดขั้นตอน รายละเอียดวิธีการปฎิบัติ กำหนดตัวบุคคล การสรรหาคนลงมาปฏิบัติ กลุ่มที่ 3 เป็นพวกที่มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุน ทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ กลุ่มที่ 4 คือ ฝ่ายลงมือปฎิบัติ การสืบสวนสอบสวนเราต้องโฟกัสไปทุกกลุ่ม ซึ่งทางการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหา 2 รายที่ควบคุมตัวไว้ได้เป็นฝ่ายลงมือปฏิบัติ จะเห็นได้ว่าในแต่ละขั้นตอนมีการอำพรางอย่างดีในทุกส่วน เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายมีบทเรียนในการทำงานในเรื่องนี้พอสมควร อยากฝากว่าถ้าเราเห็นบุคคลที่มีการอำพรางตัวแบบนี้ตามที่มีภาพปรากฎออกไป มีการสวมใส่หน้ากาก มีการใส่หมวก มีการแบกสัมภาระต่างๆ ก็ขอให้ระมัดระวัง แล้วก็แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบ” พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าว

เมื่อถามว่ามีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัวหรือเตรียมขยายผลทั้งหมดกี่คน พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า ผู้ที่เราเชิญตัวมาเพื่อพูดคุยซักถามมีเป็นร้อยคน แต่ไม่ได้แปลว่าตำรวจเอาตัวคนเป็นร้อยคนมาควบคุมตัว ไม่ใช่แบบนั้น ถ้าอยู่ในจุดที่มีพยานหลักฐานเพียงพอหรือมีความเกี่ยวข้อง หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านนั้นก็จะใช้กฎหมายที่กรองอยู่ในการควบคุมตัว ตนไม่สามารถจะบอกได้ว่าเราควบคุมตัวไว้เท่าไหร่ เพราะบางส่วนนั้นเรานำตัวมาพูดคุยแล้วเราปล่อย บางส่วนก็เป็นเรื่องของหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆที่ไม่ใช่ตำรวจมีการเอามาควบคุมตัวในประเด็นอื่น แต่เขาเห็นว่าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย เขาก็จะมีการประสานข้อมูลมา ทั้งหมดนี้ขอเรียนว่าเราทำตามกฏหมายทุกอย่าง สามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะญาติพี่น้องที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

ในส่วนของผู้ก่อเหตุในกลุ่มที่ลงมือปฏิบัติการมีมากกว่า 15 รายขึ้นไป เชื่อว่ามีบางส่วนหลบหนีออกไปต่างประเทศแล้ว แต่ยืนยันว่ามีข้อมูลอยู่ในมือ โดยใน 2 คน ที่จับกุมได้นั้นเกี่ยวข้องกับขบวนการใดหรือไม่นั้น เรื่องชื่อขบวนการมันก็เป็นทฤษฎีหนึ่ง เรายังไม่ตัดประเด็นใด ต้องเรียนว่ามันมีการทำงานเป็นระบบ ฉะนั้นเราคงไม่ไประบุชื่อคนนั้นคนนี้จนกว่าจะถึงจุดที่เรามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีได้ ส่วนคนที่ถูกออกหมายจับมีความเชื่องโยงกับเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้หรือไม่ ยอมรับว่ามีในอดีต แต่ไม่ได้แปลว่าในปัจจุบันจะเป็นหรือไม่เป็น ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนสอบสวน แต่ว่าโดยธรรมชาติแล้วผู้ลงมือปฏิบัติจะไม่ทราบถึงแนวคิดที่แท้จริงเท่าไหร่นักของคนที่เป็น master mind เขาจะรู้เท่าที่จำเป็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้กฎหมายพิเศษคุมตัว 2 ผู้ต้องหา จะสอดคล้องกันหรือไม่เนื่องจากเหตุเกิดในพื้นที่ กทม. พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า ในแต่ละหน่วยงานจะใช้ฐานข้อมูลเท่าที่เขามีแล้วก็ใช้อำนาจเท่าที่มี ถ้าสมมติว่าการกระทำก่อความไม่สงบส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ที่หน่วยนั้นๆมีอำนาจที่สามารถใช้ได้ตามกฎหมายก็ใช้ อย่างที่เรียนแล้วว่า ถ้าเราดูคดีแบบนี้ ต้องดูเป็นภาพรวม เขาไม่ได้ทำอะไรเบ็ดเสร็จแค่ในพื้นที่ กทม. การวางแผน การหาคน การจัดเตรียมของทุกอย่าง มันไม่ได้จำเป็นว่าเกิดขึ้นใน กทม.เท่านั้น มันกระจายตัวไปในหลายพื้นที่ เราก็ต้องใช้สรรพกำลังทุกอย่างที่เรามี ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่หมายความถึงหน่วยความต่างๆ ก็ประสานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้เรา ส่วนเรื่องแรงจูงใจในการก่อเหตุของผู้ต้องหา ขอไม่เปิดเผย แต่อย่างที่เรียนไว้ แนวคิดตรงนี้ระดับผู้ปฏิบัติการจะไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ก็จะรู้ในมุมมองของเขา ซึ่งเราก็รับฟังแต่ขอไม่เปิดเผย จะเปิดเผยก็ต่อเมื่อเราได้ข้อเท็จจริงว่าเรื่องนี้คืออะไร

เมื่อถามว่าคดีนี้มีการเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวของตน สมมติว่ามีขบวนการอะไรก็แล้วแต่ที่เราคิดเข้ามาเกี่ยวข้อง สมมติว่าในระดับยุทธศาสตร์ของขบวนการ อยากจะมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจรัฐ หรือจะได้มาซึ่งอำนาจ

เมื่อถามว่าคดีนี้มีการเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวของตน สมมติว่ามีขบวนการอะไรก็แล้วแต่ที่เราคิดเข้ามาเกี่ยวข้อง สมมติว่าในระดับยุทธศาสตร์ของขบวนการ อยากจะมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจรัฐ หรือจะได้มาซึ่งอำนาจรัฐที่แตกต่างไปกว่าปัจจุบัน อันนี้ก็เป็นความมุ่งหมายของเขา สมมติว่ามีคณะบุคคลหรืออะไรก็แล้วแต่ซึ่งอยากจะเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองไม่ว่าด้วยวิธีใดก็อาจจะมารวมกันได้ เพราะว่าพวกนี้ก็อาจจะมาสงวนจุดร่วมแสวงจุดต่าง ซึ่งอันนี้ไม่ใช่ข้อสรุป เราเป็นเจ้าพนักงานก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งเรียนตรงๆว่ามันยากมาก เพราะฉะนั้นการวิพากษ์วิจารณ์ทุกอย่างเรารับฟัง แต่เราต้องเดินตามกฎหมาย

พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานที่เก็บได้อยู่ระหว่างดำเนินการ เรามีพยานหลักฐานมากกว่านั้น ไม่ใช่แค่นิติวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมาปะติดปะต่อพยานหลักฐานแต่ละชิ้น อย่างที่เรียนว่าผู้ก่อเหตุเป็นมืออาชีพ อุปกรณ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นระเบิด อุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเพลิง ใช้การจุดด้วยตัวตั้งเวลา เพื่อให้ผู้ปฏิบัติกลับไปในพื้นที่เซฟโซนก่อนที่ระเบิดจะทำงาน ส่วนแหล่งที่มาของระเบิดเรามีฐานข้อมูลอยู่แต่ขอไม่เปิดเผย ระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาอย่างไรบ้างเราดูหลายอย่าง ดูองค์ประกอบ ดูวัสดุ อันไหนที่เป็นพยานหลักฐานก็หยิบมา

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเฝ้าระวังเหตุในช่วงเทศกาลสำคัญปลายปีอย่างไร พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า คิดว่าหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยต้องดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ อะไรที่เคยเป็นจุดอ่อนก็ต้องทำการแก้ไข ซึ่งก็ทำมาได้ดีโดยตลอดระดับหนึ่ง แต่ว่าการพัฒนาของคนที่จ้องจะทำลายเขาก็พัฒนา ซึ่งเราก็ต้องพัฒนาต่อเนื่องเช่นกัน สิ่งสำคัญคือความร่วมมือของพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ทำคนเดียวไม่ได้

ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์ที่ทำงานมา เหตุที่เกิดในพื้นที่ภาคใต้ ไม่มีการประกาศตัวเองว่า คดีนี้ใครทำ ไม่มีการออกมายอมรับว่ากลุ่มไหนเป็นผู้ลงมือ ซึ่งไม่เหมือนในต่างประเทศ ที่กลุ่มลงมือออกมาประกาศว่าเป็นผู้กระทำ เหตุการต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศ มีมาตั้งแต่ปี 2544 เป็นเหตุระเบิดเครื่องบินการบินไทย ทีจี 114 ปี 2548 มีเหตุระเบิดที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ปี 2549 เกิดเหตุที่สวนลุมพินี ขณะจัดรายการเมืองไทยสัญจร นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ปี 2550 เหตุระเบิดขณะอยู่ในช่วงเค้าดาวน์ ต่อด้วยเหตุระเบิดหน้าโรงหนังเมเจอร์ พล.อ.สุรยุทย์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ ปี 2553 เหตุระเบิดสมานแมนชั่น เหตุระเบิดกลุ่มนปช.ที่แยกราชประสงค์ สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ปี 2555 เหตุระเบิดโรงแรทลีการ์เด็น หาดใหญ่ ปี 2557 เหตุระเบิดย่านมีนบุรี ต่อด้วยเหตุคาร์บอมบ์ทใกล้ศาลรัฐธรรมนูญ ระเบิดเหตุการชุมนุมกลุ่มกปปส.สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ปี 2558 เหตุระเบิดไปป์บอมบ์ หน้าสยามพารากอน ระเบิดลานจอดรถห้างเซ็ฯทรัล เกาะสมุย ระเบิดศาลพระพรหม ปี 2559 เหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ ปี 2560 ระเบิดกองฉลาก ระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ ระเบิดในโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ และล่าสุด ปี 2562 คือระเบิดครั้งนี้ ในสมัยของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ความเห็นส่วนตัวตน จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ระเบิดที่ผ่านมา ร้อยละ 80 -90 เป็นเหตุที่เกี่ยวกับการเมือง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ครั้งนี้ตนก็อยากจะรู้ใครอยู่เบื้องหลัง อยากจะให้เงินสัก 2 ล้านบาท บอกตนหน่อยใครอยู่เบื้องหลัง คำถามที่ทุกอยากทราบ คือ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ ใครสั่ง มาจากไหน ที่ผ่านมาไม่เห็นมีใครชื่นชมตำรวจ ตนสอบปากคำผู้ต้องเขามั่นใจว่าเขารอดแล้วด้วย พอวมาเจอด่านที่ชุมพร เขาถึงรู้ว่าไปไม่รอดแล้ว ดังนั้นคำถามแต่ละท่านตนอยากตอบ แต่ถ้าตอบไปมีปัญหาแน่ จะทำให้เดินลำบาก ที่ผ่านมาวิจารณ์กันต่างๆนาๆ ว่า เป็นการแค้นทหาร บอกเลยว่าไม่ใช่ ถ้าเขาแค้นทหาร ตำรวจ เขาไม่ต้องมาถึงกรุงเทพฯ เพราะค่ายทหาร ตำรวจ เยอะไปหมด จะวางตรงไหนก็ได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เห็นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่ไหนออกมาพูดสักคน แต่พอเจ้าหน้าที่ทำอะไรหน่อยออกมาเยอะแยะไปหมด คอยจับผิดแต่เจ้าหน้าที่

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ในภาพรววมของการซักถามผู้ต้องหา เขาให้การที่เป็นประโยชน์ ที่ตนบอกไว้ตั้งแต่ต้น เรื่องของในเป้ พบว่าในเป้จะมีชุดเปลี่ยน 5 ชุด รองเท้า 5 คู่ กางเกง 5 ตัว เสื้อ 5 ตัว หมวก 5 ใบ แว่นตา 5 อัน แสดงให้เห็นว่า เขาโง่หรือฉลาด ที่ภาคใต้เมีถังข้อมูลขนาดใหญ่ ที่มีข้อมูลบุคคลเหล่านี้อยู่ มีสื่อถามว่าทำไมต้องเอาผู้ต้องหาลงไปภาคใต้ เพราะผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีเหตุต่อเนื่องที่ภาคใต้ มีประวัติอยู่ในถังข้อมูลของเรา มีคดีเข้าตีที่นย.และก่อเหตุระเบิดรถ เหตุระเบิดครั้งนี้ ถามว่าเอาระเบิดมาจากไหน เป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง ไม่ว่าประกอบมาจากภาคใต้ หรือมาประกอบที่กรุงเทพฯ สำหรับกรณีที่เจอระเบิดที่ประตูน้ำเมื่อวันที่ 7 ส.ค.เชื่อว่าเป็นระเบิดที่ตกค้าง ระเบิดไม่จำเป็นต้องระเบิดทุกลูก อาจจะอยู่ที่เวลา หรือความผิดพลาดของวงจร การเข้าตรวจค้นที่ย่านรามคำแหง หรือตรงไหนที่เกี่ยวข้อง เราจะเข้าตรวจค้นทั้งหมด เพื่อพอสูจน์ทราบทุกที่ เบื้องต้นไม่ใช่มีแค่ที่รามคำแหง ยังมีอีกหลายจุด ระเบิดที่วางบางจุดไม่ได้หวังผลถึงชีวิต แต่จะเป็นสัญลักษณ์อย่างไร ยังสอบสวนไม่ถึงตรงนั้น ตนก็อยากรู้เหมือนกัน