สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความรู้ “จิตอาสาจราจร” ช่วยอำนวยความสะดวกการจราจร ช่วงพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค

วันนี้ 19 กันยายน 2562 เวลา 19.00 น. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร  พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานเปิด โครงการประชาชนจิตอาสาจราจร

โดยโครงการประชาชนจิตอาสาจราจร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จัดตั้งโครงการจิตอาสาพระราชทาน ๙๐๔ วปร. เพื่อความสมัครสมานสามัคคีของพสกนิกรทุกหู่เหล่า ในการร่วมกันบำเพ็ญกิจกรรมสาธารณประโยชน์ พัฒนาชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และ ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประกอบกับในวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๒ จะมีพระราชพิธีสำคัญเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ จะเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ให้ประชาชนชาวไทยได้เฝ้าชมพระบารมี

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจในการถวายความปลอดภัย รักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร รวมทั้งให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดความปลอดภัยสูงสุด สมพระเกียรติ และเป็นไปตาม พระราชประสงค์ จึงได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริมาเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยได้มอบหมายให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบังคับการจราจร เชิญชวนพี่น้องประชาชนจิตอาสาที่มีความสมัครใจ สนใจและเสียสละที่จะมาร่วมปฏิบัติงานด้านการจราจร จำนวน ๓๘๔ คน เพื่อทำหน้าที่ “อาสาจราจร” ช่วยอำนวยความสะดวก และดูแลพี่น้องประชาชนจากทั่วประเทศ ที่จะร่วมเดินทางมาเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ในพระราชพิธีสำคัญของชาติในครั้งนี้

พลตำรวจโท ปิยะฯ กล่าวด้วยว่า “…โครงการประชาชนจิตอาสาจราจร เป็นการอบรมประชาชนที่มีความสมัครใจเป็น “จิตอาสาจราจร” ตามหลักสูตรอาสาจราจรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งผู้ที่จะเข้ารับการอบรมจะต้องผ่านการคัดเลือกจากสถานีตำรวจ โดยมีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปีบริบูรณ์ ไม่เคยต้องโทษในคดีอาญา ตลอดจนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ในการอบรมจะได้รับความรู้ทั้งภาควิชาการและภาคปฏิบัติรวม ๒๕ ชั่วโมง อาทิเช่น ความรู้เกี่ยวกับการจราจร สาเหตุของอุบัติเหตุจราจรและการป้องกัน ตลอดจน ข้อกฎหมายที่จำเป็น และการควบคุมจัดการจราจรเบื้องต้น ทั้งนี้ผู้ที่จะผ่านการอบรมจะต้องมีคะแนนสอบ ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ จึงจะถือว่าผ่านการอบรม และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น อาสาจราจร มีหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในการจัดการจราจรตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลได้อย่างเป็นรูปธรรม”

พลตำรวจโท ปิยะฯ ยังได้ฝากเชิญชวนพี่น้องประชาชน เข้าร่วมรับเสด็จฯ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอยืนยันว่า จะดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนให้เสมือนเป็นแขกของพระองค์ท่าน
……………….